เวลาผ่านไปเร็วเกินไป เราเพิ่งวางแผนสำหรับปี 2021…แต่ก็ผ่านไปหกเดือนแล้ว และฉันแน่ใจว่าพวกคุณหลายๆ คนจะเริ่มวางแผนกลยุทธ์การตลาดของคุณในปี 2022 ในไม่ช้า เรามาระดมความคิดกันและดูว่าเทรนด์การตลาดจะเป็นอย่างไรในปี 2022

คำถามที่ใหญ่ที่สุดยังคงอยู่: การตลาดจะเปลี่ยนไปอย่างไรหลังจากคุกกี้ตาย?

          Google ประกาศว่าจะยุติการสนับสนุนกับคุกกี้ของบุคคลที่สามในเบราว์เซอร์ Chrome ของตนในปี 2022 มันเป็นเรื่องใหญ่ที่ระบุว่า Chrome เป็นเบราว์เซอร์ที่นิยมมากที่สุดคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 70% ของส่วนแบ่งการตลาด
          อย่างไรก็ตาม การระบาดใหญ่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการกำหนดนิสัยของเรา และดิจิทัลได้กลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ในการทำหลายสิ่งหลายอย่าง แม้การระบาดจะสิ้นสุดลง พฤติกรรมผู้บริโภคยังคงอยู่

ฉันแน่ใจเกี่ยวกับบางสิ่งแม้ว่า

• การตลาดดิจิทัลจะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นไปอีก
• การตลาดเนื้อหาจะมีความสำคัญมากขึ้น
• การตลาดแบบ Direct-to-Consumer (D2C) จะเป็นผู้นำ
• แบรนด์จะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับผู้บริโภคโดยไม่ต้องอาศัยข้อมูลที่สองหรือบุคคลที่สาม

ความตายของคุกกี้

Google ประกาศว่าจะหยุดการติดตามคุกกี้ในต้นปี 2565 ธุรกิจของคุณมีความหมายอย่างไร

เรียบง่าย ถือเป็นข่าวร้ายและจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

          การติดตามผู้ใช้ทั่วทั้งเว็บมีความสำคัญต่อผู้ลงโฆษณาและธุรกิจจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ได้กลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากขึ้นเรื่อยๆ เกิดขึ้นในช่วงเวลาของการนำ GDPR ไปใช้ ซึ่งทำให้ผู้บริโภคตระหนักถึงความเป็นส่วนตัวออนไลน์ของตนมากขึ้น มีตัวเลือกสำหรับผู้บริโภคในการเลือกไม่ใช้คุกกี้และการติดตามของบุคคลที่สามอยู่แล้ว แต่ผู้โฆษณาดิจิทัลกำลังมองหาวิธีเปลี่ยนกลยุทธ์
           หลายคนเริ่มใช้ข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่งหรือแม้กระทั่งการรวบรวมข้อมูลที่ไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริโภคและจัดทำโฆษณาที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกในการขายออนไลน์
           ข้อมูล Zero-party ได้รับโมเมนตัมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยสังเขป มันเป็นข้อมูลที่ผู้บริโภคให้กับแบรนด์โดยตรง สามารถทำได้ผ่านการสำรวจ gamification หรือการโต้ตอบกับผู้บริโภค/แบรนด์ทางออนไลน์ง่ายๆ

คุณควรพิจารณาเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือ CRM เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวจะมีความสำคัญเมื่อไม่มีการติดตามคุกกี้อีกต่อไป

ฉันต้องการแบ่งปันกลยุทธ์บางอย่างที่คุณน่าจะพร้อมสำหรับปี 2022

1. ลงทุนในกิจกรรมออนไลน์

กิจกรรมออนไลน์ (เช่น การสัมมนาผ่านเว็บ การสัมมนา หรือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์) เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเผยแพร่คำเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณไปยังลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพ ฉันเห็นแบรนด์เข้าร่วมกิจกรรมออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขายังให้โอกาสอื่น ๆ เช่นรวบรวมข้อมูลโดยตรงเกี่ยวกับผู้ชมที่เข้าร่วมงาน ต่อมาสามารถใช้ข้อมูลเพื่อสร้างโปรไฟล์ผู้บริโภคและขายให้กับพวกเขาได้โดยตรง จะช่วยลดความจำเป็นในการพึ่งพาข้อมูลของบุคคลที่สามและจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับผู้ชม กิจกรรมออนไลน์อาจไม่สร้างรายได้มหาศาลในคราวเดียว แต่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตในระยะยาวอย่างไม่ต้องสงสัย

2. เป็นเจ้าของผู้ชมของคุณ

           ในความเป็นจริง Facebook, Twitter, Instagram หรือเครือข่ายโซเชียลมีเดียอื่น ๆ เป็นเจ้าของผู้ชมของคุณ คุณไม่ได้เป็นเจ้าของพวกเขา ดังนั้น แม้ว่าจะได้ผลค่อนข้างดีสำหรับคุณ คุณก็ควรกังวล และควรเริ่มเป็นเจ้าของผู้ชมของคุณ ทำไม? ก่อนอื่น เพราะคุณจะสามารถมั่นใจได้ว่าข้อความที่คุณต้องการส่งถึงผู้ติดตามของคุณจะส่งถึงพวกเขาจริงๆ ประการที่สอง เป็นเพราะว่าอัลกอริธึมในปัจจุบันมีหน่วยวัดและการอ้างอิงจำนวนมากที่ส่งผลต่อการส่งข้อความของคุณจริงๆ ตัวอย่างเช่น คนที่คุณอยากคุยด้วยจะไม่ได้ยินคุณ เป็นที่คาดหวังเช่นกันว่าผู้ที่ติดตามคุณจะติดตามแบรนด์อื่น ๆ และสูญเสียเสียงทางการตลาดทั้งหมด คุณรู้หรือไม่ว่ามีการส่งทวีตมากกว่า500 ล้านทวีตทุกวัน ? ข้างนอกนั้นเสียงดังมาก! คุณแน่ใจได้อย่างไรว่าทวีตของคุณเข้าถึงผู้ชมของคุณ? คุณรู้หรือไม่ว่าธุรกิจกว่า6 ล้านแห่งใช้โฆษณา Facebookเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย นั่นเป็นจำนวนมากของบริษัท! ช่วงความสนใจของผู้บริโภคในปัจจุบันนั้นสั้นมาก บ่อยครั้งใช้เวลาน้อยกว่าสามวินาที เนื่องจากมีการส่งข้อมูลใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องยากที่จะรับรองว่าเนื้อหาของคุณเข้าถึงผู้ชมได้อย่างแท้จริง

           นั่นเป็นเหตุผลที่ 2022 ควรจะเกี่ยวกับการเริ่มเป็นเจ้าของผู้ชมของคุณ ฉันรู้ว่าพูดง่ายกว่าทำ แต่ในระยะยาว คุณจะสามารถบรรลุผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมได้ จดหมายข่าวมีความน่าสนใจ คิดเกี่ยวกับมัน กล่องจดหมายของผู้ชมของคุณเป็นพื้นที่ส่วนตัว และหากพวกเขาอยากให้คุณเข้ามา คุณก็น่าจะได้รับความสนใจอย่างไม่มีการแบ่งแยก อย่างไรก็ตาม หากคุณสามารถเข้าสู่กล่องจดหมายของพวกเขาได้ กลยุทธ์การตลาดของคุณจะต้องเปลี่ยนแปลง เนื้อหาจะต้องเป็นส่วนตัวมากขึ้นและเกี่ยวข้องกับกลุ่มเฉพาะมากขึ้น

            นอกจากนี้ ในปี 2022 แนวโน้มของการสร้างเนื้อหาแบบกำหนดเองน่าจะมีความสำคัญมากกว่าที่เคย ด้วยการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในแนวดิจิทัล ผู้คนจะเลือกมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาบริโภค เนื่องจากความคาดหวังของพวกเขาจะเพิ่มขึ้น

             แบรนด์มักจะใช้เวลามากขึ้นในการสร้างเนื้อหา (และไม่ใช่แค่สำหรับทีมภายในเท่านั้น แต่ยังรวมถึงลูกค้าด้วย) ดังนั้นหากคุณยังไม่ได้เริ่ม เราขอแนะนำให้คุณเริ่มตอนนี้เลย! ในขณะเดียวกัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเนื้อหาของคุณดึงดูดผู้ชมหรือกลุ่มตลาดของคุณ

3. ลงทุนเวลา (และเงิน) เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งของแบรนด์

            เราอยู่ในโลกที่ภาพคือทุกสิ่ง หากคุณต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งของแบรนด์ คุณต้องเลือกคำที่เหมาะสมและวิธีการสื่อสารที่ถูกต้อง มุ่งเน้นการสร้างคำบอกต่อโดยการให้บริการที่มีคุณภาพแก่ลูกค้าของคุณผ่านการสื่อสารที่รวดเร็ว แม้ว่าการโฆษณาดิจิทัลจะยังคงเป็นเรื่องใหญ่ในกลยุทธ์การตลาดของคุณ แต่สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าจะมีราคาแพงกว่าเช่นกัน อันที่จริง ราคาของ Google Ads เพิ่มขึ้นทุกปีเพราะ Google ใช้การเสนอราคาเป็นวิธีการเรียกเก็บเงิน นอกจากนี้ การแข่งขันเพื่อโฆษณาออนไลน์ได้เพิ่มขึ้น ดังนั้น ราคาที่คุณจ่ายก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน คุณควรดูที่การเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ของคุณแบบออร์แกนิก ลองใช้กลยุทธ์ที่ให้คุณค่าระยะยาวแก่ผู้ชมของคุณดูไหม บางทีอาจเป็นวิดีโอสอน พอดคาสต์รายสัปดาห์ หรือเนื้อหาเว็บที่ให้ความรู้และให้คุณค่า แทนที่จะตะโกนว่า "ซื้อจากฉันเดี๋ยวนี้!"

4. เป็นผู้นำทางความคิดและให้ความรู้แทนที่จะขายยาก

ไม่น่าแปลกใจที่ผู้คนมีภูมิคุ้มกันต่อกลวิธีขายยาก อันที่จริง พวกเขาเปิดโหมดป้องกันเมื่อแบรนด์เริ่มกดดันให้ตัดสินใจซื้อ แทนที่จะขายผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณอย่างจริงจัง ให้ความรู้แก่ลูกค้าของคุณว่าทำไมพวกเขาต้องการคุณ จะต้องเกี่ยวกับความสะดวกสบาย และคุณต้องแสดงให้พวกเขาเห็นว่าคุณสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ สิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับการศึกษาของลูกค้าคือ Apple (ในความเห็นที่ต่ำต้อยของฉัน) ความสำเร็จของพวกเขามีมากกว่าโทรศัพท์ แล็ปท็อป หรือแท็บเล็ตที่มีดีไซน์สวยงาม พวกเขาได้ทำงานอย่างมากในการให้ความรู้แก่ผู้บริโภค คุณรู้หรือไม่ว่าในสมัยนั้น Apple iPod มีส่วนแบ่งตลาด 75%สำหรับเครื่องเล่นเพลงดิจิทัลในขณะนั้น พวกเขาแสดงภาพคนที่ใช้อุปกรณ์ซึ่งแสดงคุณสมบัติจริงและช่วยให้ผู้บริโภคเห็นภาพว่าอุปกรณ์นั้นมีไว้เพื่ออะไร

           นอกเหนือจากโฆษณาที่ออกแบบมาอย่างดีแล้ว Apple ยังให้พื้นที่สำหรับผู้บริโภคในการเรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของตน: ร้านค้า Genius Bar เป็นที่ที่ผู้บริโภคสามารถเข้ามาสำรวจผลิตภัณฑ์ ถามคำถาม และรับความช่วยเหลือได้หากต้องการ อัจฉริยะที่ร้านค้าไม่ค่อยขายหรือพยายามโน้มน้าวให้ลูกค้าซื้ออะไรบางอย่างหรือเปลี่ยนจากรายการหนึ่งไปยังอีกรายการหนึ่ง พวกเขาต้องการแสดงความสามารถของสินค้า Apple และปล่อยให้คุณทำข้อสรุป แบรนด์จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นดิจิทัล เริ่มตระหนักถึงพลังของการตลาดดังกล่าว และตอนนี้เราสามารถเห็นการติดตามผู้นำมากขึ้น การขายอย่างยากจะไร้ผลมากขึ้นเรื่อยๆ ให้เปลี่ยนทิศทางพลังงานที่ใช้ในการพัฒนากลยุทธ์การขายหนักเพื่อหาวิธีอำนวยความสะดวกและให้ความรู้แก่ผู้ชมของคุณ

5. เนื้อหาไม่ใช่ราชาอีกต่อไป ความเรียบง่ายคือ

         เนื้อหาเป็นราชา — ฉันเบื่อวลีนี้ มีเนื้อหามากมายบนอินเทอร์เน็ต มันช่วยได้อย่างไร? อันที่จริง ฉันเชื่อว่าความเรียบง่ายและความชัดเจนคือราชา

         ผู้บริโภคมีความสนใจในเนื้อหาคุณภาพสูงและไม่ซ้ำใครมากขึ้น แต่น่าเสียดายที่ปริมาณข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตมีมากมายมหาศาล และการนำเสนอเนื้อหาคุณภาพสูงและไม่ซ้ำใครก็เป็นเรื่องที่ท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ

         ผู้บริโภคไม่ต้องการเห็นรายการ 10 อย่างที่เหมือนกันเพื่อเพิ่มผลผลิต สิ่งที่พวกเขาต้องการเห็นคือการบิดเบี้ยวที่ไม่เหมือนใคร มันสามารถเกิดขึ้นได้โดยการให้แนวทางเฉพาะสำหรับปัญหาหรือเพิ่มประสบการณ์ส่วนตัวและคำแนะนำ ฉันรู้ว่าเป็นการยากที่จะคิดค้นวิธีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่คุณสามารถเพิ่มแนวทางเฉพาะของคุณเพื่อเพิ่มประสิทธิผลได้ อุตสาหกรรมบล็อกและผู้มีอิทธิพลเติบโตขึ้นอย่างมาก!

         ดังนั้น ฉันขอแนะนำให้ทำงานกับเนื้อหาที่ยาวขึ้นและให้ความรู้มากขึ้นผ่านโพสต์ในบล็อกและบทความ เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับ SEO ที่แข็งแกร่งและการเป็นผู้นำทางความคิด ในเวลาเดียวกันพวกเขาสามารถโต้ตอบได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเพิ่มแบบทดสอบ เกม และคำถามที่มักจะทำได้ดีเป็นพิเศษในบล็อกของคุณ ขอบคุณเรื่องราวเชิงโต้ตอบของ Instagram ที่พิชิตพื้นที่

          เนื่องจากคุณภาพมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ฉันจึงหลีกเลี่ยงการโพสต์เนื้อหาธรรมดาๆ เนื่องจากความคาดหวังของผู้บริโภคในปัจจุบันเพิ่มมากขึ้น หมายความว่าเนื้อหาที่ไม่ดีจะกลายเป็นที่น่ารำคาญมากขึ้นเรื่อย ๆ และผู้บริโภคจะอดทนกับมันน้อยลง จำไว้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องโพสต์ทุกวัน ดีกว่าที่จะให้เนื้อหาคุณภาพสูงกว่าไม่บ่อยนัก แต่ให้แน่ใจว่าสิ่งที่คุณนำเสนอมีความเกี่ยวข้อง มีส่วนร่วม และเป็นประโยชน์

6. โอบกอดการปรับเปลี่ยนในแบบของคุณ

          ในปี 2022 เราจะมีช่องทางให้ลูกค้าได้รับชมเนื้อหาทางการตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น วิดีโอ บทความออนไลน์ พอดแคสต์ และอื่นๆ สิ่งเหล่านี้จะเป็นวิธีการที่แตกต่างกันสำหรับแบรนด์ในการสื่อสารกับลูกค้าเพื่อมีส่วนร่วมกับข้อความของพวกเขา ฉันจะใช้เวลาสักครู่เพื่อทำความเข้าใจว่าผู้ชมของฉันใช้ช่องใดและจะอยู่ที่นั่น จากนั้น การอยู่ในช่องทางต่างๆ จะทำให้คุณมีโอกาสปรับแต่งข้อความของคุณให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม และพบกับวิธีที่ดึงดูดใจพวกเขามากที่สุด

ตัวอย่างเช่น ฉันสังเกตว่าพอดคาสต์มีแนวโน้มขาขึ้น ตอนนี้คลับเฮาส์กำลังโด่งดังไปทั่วโลก กระแสก็จะเพิ่มขึ้นเท่านั้น ไม่ใช่ทุกคนที่จะฟังพอดแคสต์ของคุณ แต่ผู้ที่ฟังจะมีความสนใจและวัตถุประสงค์เฉพาะซึ่งคุณสามารถใช้เพื่อประโยชน์ของคุณ ดังนั้นสร้างผู้ชมบางประเภท ในทำนองเดียวกัน ผู้คนจำนวนมากขึ้นมักจะอ่านโพสต์บนบล็อกเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจและผลิตภัณฑ์ ดังนั้นบริษัทต่างๆ ควรใช้พื้นที่นี้และดึงดูดลูกค้ากลุ่มนี้อย่างมีกลยุทธ์มากขึ้น

7. สร้างเนื้อหาแบบธุรกิจกับธุรกิจ

        เนื้อหา B2B มักถูกละเลย ฉันสังเกตเห็นว่าธุรกิจ B2B จำนวนมากไม่พึงพอใจและตัดสินใจเลือกโดยความเชื่อที่ผิดว่า "นักธุรกิจไม่ค้นหาทางออนไลน์เพื่อหาคำตอบ" ดังนั้นพวกเขาจึงทุ่มเทเวลาและความพยายามอย่างมากในการโทรและส่งอีเมล 
        ฉันคิดว่าเทรนด์ล่าสุดคือการส่งข้อความถึงผู้คนบน LinkedIn มันทำงานกี่ครั้ง? จากประสบการณ์ของผม มันได้ผลน้อยมาก อย่างน้อยฉันมักจะขอบคุณพวกเขาสำหรับการส่งข้อความและเพิกเฉยต่อกลเม็ดการขายดังกล่าวอย่างสุภาพ

         เนื้อหา B2B เป็นสิ่งจำเป็น แนวโน้มเปลี่ยนแปลงเร็วมากจนบางครั้งผู้จัดการ B2B ก็ใช้ Google และมองหาวิธีจัดการกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ฉันรู้ว่าฉันทำมัน และฉันรู้ว่าผู้จัดการหลายคนก็ทำเช่นกัน

เป็นเรื่องปกติ หลังจากอ่านบล็อกโพสต์เกี่ยวกับโซลูชันเฉพาะ ความไว้วางใจกับแบรนด์ก็ถูกสร้างขึ้น และฉันสนใจที่จะพูดคุยกับตัวแทนโดยตรงเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม มันจะเป็นไปได้ไหมถ้าแบรนด์เดียวกันเพียง LinkedIn ส่งข้อความถึงฉัน ไม่น่าจะใช่ ฉันยึดตามความตั้งใจ เมื่อฉันค้นหาบางอย่างทางออนไลน์ ฉันมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ เมื่อมีคนส่งอีเมลแนะนำตัวหรือข้อความบน LinkedIn ให้ฉัน ฉันไม่มีความปรารถนาที่จะสำรวจเพราะไม่ได้คิดถึงปัญหา มีกี่คนที่สูญเสียลูกค้าเนื่องจากธุรกิจเลือกที่จะไม่ทำเนื้อหา B2B?

8. เป็นนักเล่าเรื่องที่ดีขึ้น

          หากคุณติดตามบล็อกนี้ คุณจะรู้ว่าฉันเป็นแฟนตัวยงของการเล่าเรื่อง ในปี 2022 ทุกคนจะเป็นนักเล่าเรื่อง แม้แต่แบรนด์ก็จำเป็นต้องส่งข้อความในลักษณะที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของตน

 ผู้บริโภคไม่ต้องการได้ยินว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณยอดเยี่ยมเพียงใด สิ่งที่พวกเขาต้องการทราบคือเรื่องราวเกี่ยวกับเวลาที่คุณช่วยแก้ปัญหาเฉพาะ ธุรกิจจำนวนมากยังคงใช้ถ้อยคำที่ไพเราะเพื่ออธิบายผลิตภัณฑ์ของตน สิ่งที่ขาดหายไปบ่อยครั้งคือการแสดงข้อดีของผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่จริง บริการของคุณเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ถึง 50% หรือไม่?

9. นำระบบอัตโนมัติทางการตลาดมาใช้

           ในปี 2022 เราจะเห็นการใช้แคมเปญการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมากขึ้นเรื่อยๆ ในขอบเขตที่กว้างขึ้นของอุตสาหกรรม ตัวอย่างเช่น การเพิ่มการตลาดอัตโนมัติให้กับกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลของคุณจะทำให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น เนื่องจากนักการตลาดจะสามารถทำให้เวิร์กโฟลว์เป็นอัตโนมัติและใช้เวลาน้อยลงกับงานที่ซ้ำซากจำเจ

            อย่างไรก็ตาม นักการตลาดจะสามารถสร้างโปรไฟล์ผู้บริโภคและดูแลพวกเขาในช่องทางการขายได้ วิธีการ "หนึ่งขนาดเหมาะกับทุกคน" หยุดทำงานไปนานแล้ว และถึงเวลาแล้วที่จะพิจารณาการแบ่งกลุ่มกลยุทธ์ เนื้อหา และขนาดต่างๆ ตามผู้ชมที่คุณมีลูกค้ามีความฉลาดและเข้าใจมากขึ้น ดังนั้น หากคุณต้องการอยู่ต่อหน้าพวกเขาเมื่อพวกเขาค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณทางออนไลน์ คุณต้องติดตามสิ่งที่พวกเขาเห็นทางออนไลน์: ชื่อบทความ ลิงก์ที่แชร์จากเว็บไซต์อื่น หรือโพสต์บนโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณที่สามารถช่วยได้ ในกระบวนการตัดสินใจ โดยทั่วไป ถึงเวลาแล้วที่จะต้องนึกถึงการสนทนาอัตโนมัติ (การตลาด) เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับลูกค้าของคุณและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพวกเขา ดังนั้นการตลาดอัตโนมัติจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการเดินทางนี้

10. คิดนอกกรอบ

         สิ่งที่ได้ผลสำหรับคุณจนถึงตอนนี้อาจหยุดทำงาน จำไว้ให้ขึ้นใจ คุณได้รับคำถามมากมายผ่านโซเชียลมีเดียหรือไม่? อัตราการแปลงคืออะไร? มันลดลงหรือเพิ่มขึ้นหรือไม่? สิ่งที่เคยทำมาในอดีตอาจให้ผลลัพธ์ที่แย่ลงต่อไปได้ ดังนั้น นักการตลาดจึงควรสำรวจและคิดนอกกรอบอย่างต่อเนื่อง โปรดจำไว้ว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปเนื่องจากการระบาดใหญ่ นอกจากนี้ การแข่งขันได้เพิ่มขึ้นเนื่องจาก COVID-19 ดังนั้น ลองดูว่าวิธีการที่คุณใช้ยังคงให้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการหรือไม่ เป็นเวลาที่ยอดเยี่ยมในการคิดนอกกรอบและมองหาวิธีการทำตลาดที่แปลกใหม่ อาจเริ่มต้นเป็นพันธมิตรกับธุรกิจอื่นที่สามารถเสริมผลิตภัณฑ์ของคุณ? หรือให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคและกำหนดกลยุทธ์ตามข้อมูลที่ได้รับ? คุณยังสามารถสำรวจช่องทางใหม่ๆ ในการโฆษณา เช่น Quora หรือ TikTok

          ปี 2022 จะนำการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานบางอย่างมาสู่วิธีการทำตลาดของเรา การตายของคุกกี้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับโฆษณาดิจิทัลที่ธุรกิจจำนวนมากพึ่งพาอย่างมาก และถึงแม้เราจะไม่ทราบจริงๆ ว่าจะมีผลกระทบอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ ผู้บริโภคจะมีความต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ดีที่สุดที่จะเริ่มปรับวิธีการโฆษณาทางเลือก: ทดลอง วัดผล และให้แน่ใจว่าพวกเขาทำงาน


ที่มา : https://ichi.pro/th