Facebook ในฐานะที่เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียขนาดใหญ่ของโลก และยังเป็นพื้นที่สำหรับ advertising รายใหญ่ของโลกด้วย ดังนั้นเวลาที่ Facebook ปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเติมความสำคัญในบางฟีเจอร์ หรือปล่อยฟีเจอร์ใหม่ๆ ออกมา แรงกระเพื่อมไปถึงผู้ใช้ และผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งนักการตลาด, ภาคธุรกิจต่างๆ จึงค่อนข้างสำคัญ
โดยเราอยากจะมาสรุปให้อ่านง่ายๆ ว่าเทรนด์ในปี 2021 บนแพลตฟอร์ม Facebook จะปรับเปลี่ยน หรือเบนเข็มเพิ่มความสำคัญในฟีเจอร์ใดบ้าง มาลองดูกัน!
Facebook Live จะกลับมาแรง!
เทรนด์ 2021 นี้เราจะเห็นว่า Facebook Live come back! แม้ว่าในปีที่ผ่านๆ มาฟีเจอร์นี้อาจไม่ได้หายไปไหนหรอก แต่ในปีใหม่นี้ Facebook จะให้ความสำคัญกับด้านมากขึ้น ซึ่งเป็นความพยายามทำอะไรสักอย่างต่อเนื่องจาก Q2/2020 ที่กระแส Facebook Live ได้รับความนิยมในช่วงที่มีการระบาดของ COVID-19 ทำให้มีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 26.8%
และที่น่าสนใจก็คือ จำนวน Facebook Lives ใน Q2/2020 คิดเป็นเกือบ 1% ของโพสต์จากแบรนด์ทั้งหมดบน Facebook นั่นหมายความว่า แบรนด์ต่างๆ เริ่มให้ความสำคัญกับ Facebook Live เพื่อเป็นช่องทาง access ถึงลูกค้า
เพิ่มความสำคัญเรื่อง ‘AR Ecosystem’
ด้วยขนาดของตลาด Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR) ที่เติบโตเร็วมาก มีมูลค่าแตะ 18.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2020 ดังนั้น เทคโนโลยีทั้ง 2 รูปแบบนี้แน่นอนว่า Facebook จะต้องต่อยอดทำอะไรสักอย่างบนแพลตฟอร์มแน่!
อย่างที่เห็นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่ Facebook ได้ซุ่มพัฒนาโปรดักซ์หลายๆ อย่าง เช่น แว่นตาอัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยี AR และ Spark AR studio ที่มีนักครีเอทเตอร์หลายแสนคนจาก 190 ประเทศทั่วโลก ที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ของ Facebook ในการเผยแพร่กว่า 1.2 ล้าน AR effects ซึ่งแน่นอนว่า Facebook กำลังจริงจังกับ 2 เทคโนโลยีนี้มากขึ้นไปอีกในปี 2021
การทำ video contents ไม่ใช่เรื่องใหม่ในยุคนี้แล้ว เพียงแต่ Facebook กำลังเอาจริงเอาจังกับการโฆษณา หรือการทำการตลาดในรูปแบบวิดีโอ เพื่อช่วยให้แบรนด์และภาคธุรกิจอื่นใช้ประสิทธิภาพตรงนี้ ในการสื่อสารกับลูกค้า
โดยในภาพรวมปี 2020 สัดส่วนประมาณ 17% ของเนื้อหาทั้งหมดใน Facebook เป็นรูปแบบวิดีโอ และก็ได้รับความนิยมอย่างมากด้วย ซึ่งถ้าคิดเป็นช่วงที่ปอปปูล่ามากที่สุด ก็คงเป็น Q3/2020 ที่วิดีโอคอนเท็นต์เพิ่มขึ้น 2.6%
จุดประสงค์ของคนที่ชอบใช้ Facebook หลักๆ ก็คือ ความเป็น community อยู่กันเป็นสังคม ฉันเห็นสังคมเธอ เธอเห็นสังคมฉัน! ดังนั้น Facebook จึงใช้จุดแข็งตรงนี้เพิ่มความสำคัญของ ‘Facebook group’ เพื่อเชื่อมโยงคนที่หลากหลาย มาจากอาชีพ-สังคมที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่เชื่อมเกี่ยวกันได้ด้วยสิ่งที่สนใจสิ่งเดียวกัน
เชื่อหรือไม่ว่า ในปี 2019 Facebook เคยเก็บสถิติจำนวน groups ใน Facebook มีจำนวนมากกว่า 10 ล้านกลุ่ม และมีผู้ใช้ active ต่อเดือน รวมๆ ก็ 1.4 ล้านคน
ดังนั้น ถ้าเราเป็นนักการตลาด หรือนักธุรกิจ หรือแม้แต่คนที่เกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้ เห็นโอกาสอะไรมั้ย? โอกาสที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย, ลูกค้า ผ่านกลุ่ม Facebook เหล่านี้ ซึ่งพวกเขามีเรื่องราวความสนใจเดียวกันทั้งหมดเป็นพื้นฐาน
ที่จริงแล้วประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ผ่าน Facebook ไม่ใช่เรื่องใหม่ และก็ยังเป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบัน แต่ด้วยความที่ดีมานด์มันต่อเนื่องมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให่เมื่อต้นปี 2020 ที่ผ่านมา Facebook ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ไปแล้ว ก็คือ ‘Facebook Shops’ เพื่อเป็นพื้นที่ตรงกลางระหว่าง ‘ผู้ซื้อ – ผู้ขาย’ ให้สะดวกสบายมากขึ้น
เคยมีผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับ โซเชียลมีเดียว่า ในปี 2021 Facebook น่าจะมีอะไรสนุกๆ เกี่ยวกับฟีเจอร์นี้ เช่น ช่องทางที่ผู้ซื้อ – ผู้ขาย สามารถติดต่อกันได้โดยตรง อาจไม่ต้องสลับ page มาเปิดหน้า messenger เป็นต้น (แต่อันนี้คงต้องรอติดตามกันสักพัก)
นอกจากฟีเตอร์ใหม่นี้ที่ Facebook อนุญาตให้ร้านค้าออนไลน์สร้างร้านเป็นของตัวเองได้ในพื้นที่นี้ Facebook ยังต้องการให้การซื้อขาย – ชำระเงิน ทุกขั้นตอนจบที่ Facebook ดังนั้นไม่แน่ว่าในปี 2021 อาจมีอะไรสนุกๆ ออกมาให้เห็นกันอีก
ปี 2021 คาดกันว่า เราจะเห็น Facebook ขยับความสำคัญมาที่ ‘Home Feed’ ซึ่งเป็นหน้าแรกที่ผู้ใช้จะเห็นข้อมูลก่อนเสมอ ดังนั้น สิ่งที่ Facebook จะทำก็คือ เพิ่มการมองเห็นบนหน้า Feed สำหรับกลยุทธ์, โปรโมชั่น, แคมเปญของแบรนด์มากขึ้น โดยจะเน้นไปที่กลยุทธ์โฆษณาบนหน้าฟีดข่าวนั่นเอง
ทั้งนี้ มีข้อมูลล่าสุดจาก Q3/2020 ที่แสดงว่า Feed ข่าวสร้างรายได้ให้กับ Facebook ประมาณ 58.2% ของการใช้จ่ายค่าโฆษณาทั้งหมด ซึ่งมากกว่า video feed และ instream video ด้วยซ้ำไป
และข้อมูลที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ การโฆษณาผ่าน News Feed บน Facebook มีอัตราการคลิกผ่าน (CTR) สูงสุด (เทียบกับอีก 2 ประเภท) อยู่ที่ 1.82%
เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ใจร้อนขึ้น ความอดทนก็เริ่มต่ำลงเป็นธรรมดา เพราะทุกอย่างเราขับเคลื่อนไปด้วย speed โน่นต้องเร็ว นี่ก็ต้องเร็ว ดังนั้น ‘Chatbots’ คือคำตอบของโจทย์นี้ที่ Facebook กำลังให้ความสำคัญ ขณะที่อุสาหกรรม Chatbots เองก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ดูจาก market size ที่คาดกันว่าจะแตะถึง 9.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2024
ดังนั้น สิ่งที่ Facebook จปรับปรุงในปี 2021 ก็คือ พัฒนาระบบการแชท (messenger) เพื่อรองรับกับการใช้เทคโนโลยี Chatbots ให้เสถียรมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีภาคธุรกิจราวๆ 40 ล้านรายที่ใช้ Facebook messenger ในการติดต่อกันลูกค้า/พาร์ทเนอร์ (เฉลี่ยแล้วแต่ละเดือนมีการส่งข้อความระหว่างธุรกิจ – ผู้บริโภคประมาณ 20 พันล้านข้อความ)
ต่อเนื่องจากผลกระทบที่เกิดจากการระบาด ทำให้ธุรกิจทั้งรายใหญ่และรายเล็กได้รับผลกระทบ แต่สำหรับรายเล็กน่าจะดูหนักหนากว่า ว่าด้วยเรื่องของต้นทุนในการธุรกิจและงบประมาณที่ช่วยในการฟื้นธุรกิจหลังจากนี้
ดังนั้น Facebook ประกาศเมื่อต้นปี 2020 ว่าจะให้ความช่วยเหลือกับร้านค้ารายเล็กๆ ที่เดือดร้อน โดยจะให้ทุนมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แก่ธุรกิจ 30,000 แห่งทั่วโลก ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญยังมองว่า ในปี 2021 การระบาดนี้จะยังคงอยู่ต่อไปอาจถึงสิ้นปี เป็นไปได้ว่าในระหว่างปีนี้ เราจะเห็นมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ ของ Facebook ออกมาอีก
ปีนี้จะเป็นปีที่ Facebook หันมาให้ความสำคัญกับ User-Generated Content (UCG) หมายถึง รูปแบบคอนเท็นต์ที่มีคุณภาพจริงๆ และคาดว่าจะเป็นที่นิยมด้วย
โดยการเปิดพื้นที่ให้กับแบรนด์ หรือแม้แต่ influencers ก็ตาม ในการใช้พื้นที่ Facebook สำหรับครีเอทคอนเท็นต์ที่มีคุณภาพ และมีความน่าเชื่อถือ ที่สำคัญต้องเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ ซึ่งช่วง 8 เดือนแรกของปี 2020 จะเห็นว่า ตลาดของคอนเท็นต์แบบ UCG เติบโตเพิ่มขึ้น 2 เท่าเป็น 495 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ที่มา : https://www.marketingoops.com/