1. Behavioral Emailsอีเมลรูปแบบนี้ จะเป็นอีเมลที่อยู่ในรูปแบบเชิญชวน โน้มน้าว กระตุ้นและตอบสนองต่อพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ต้องออกแบบให้ผู้รับรู้สึกอยากมีส่วนร่วมหรืออยากทำอย่างใดอย่างหนึ่งกับอีเมลฉบับนั้น ออกแบบอีเมลให้กระชับและน่าสนใจ เรียบง่าย แถมยังต้องออกแบบทั้งหัวข้อและดีไซน์ข้างในให้ผู้รับอยากเปิดอ่านด้วย
2. Inaugural Emailsอีเมลที่ให้ความรู้สึกถึงการแสดงความยินดี อีเมลต้อนรับลูกค้าเวลาที่มีลูกค้าเข้ามาใหม่หรือการนำเสนอสิ่งใหม่ให้กับลูกค้า ข้อความที่ใช้ในอีเมลต้องมีความสร้างสรรค์ กระตุ้นให้อยากอ่าน มี Call to Actions หลากหลายรูปแบบภายในอีเมล เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ากระทำการใด ๆ ต่อ
3. Promotional Emailsเป้าหมายของการทำอีเมลรูปแบบนี้คือมุ่งเน้นไปที่การขายของโดยเฉพาะ รองลงมาคือการประกาศแคมเปญหรือโปรโมชันต่าง ๆ ของธุรกิจ ควรใช้รูปภาพที่เด่นและใหญ่ ตัวหนังสือก็ควรเน้นให้เห็นชัด กระตุ้นความต้องการของผู้รับ
4. Notification Emailsอีเมลประกาศหรือชี้แจงลูกค้าในเรื่องต่าง ๆ เช่น กิจกรรมของผู้ใช้งาน การแจ้งเตือนความผิดพลาด ยืนยันการซื้อสินค้า รีเซ็ทรหัสผ่าน อีเมลเหล่านี้ควรสั้น เข้าใจง่ายและมุ่งไปที่เรื่องใดเรื่องหนึ่งเท่านั้น เพราะด้วยความที่เป็นอีเมลในเรื่องของการแจ้งเตือน อีเมลจะถูกส่งไปยังลูกค้าอย่างรวดเร็วในขณะที่ลูกค้ากระทำการใดสักอย่าง จึงเป็นอีเมลที่ต้องเข้าใจได้ในย่อหน้าเดียว
Email Marketing มีข้อดีและธุรกิจนิยมใช้เป็นอย่างมาก เนื่องจากว่ามีเครื่องมือ Martech ในปัจจุบันที่รองรับการทำงานของการทำอีเมลมาร์เก็ตติ้งออกมามากมาย แต่เครื่องมือที่ได้รับความนิยมและมีผู้ใช้งานมากที่สุด 2 เครื่องมือ คือ MailChimp และ HubSpot คุณสามารถสร้างอีเมล ส่งอีเมลแบบอัตโนมัติ แถมยังสามารถดูรายงานของการส่งอีเมลในแต่ละครั้งได้อีกว่าส่งอีเมลไปกี่ฉบับ มีผู้เปิดอ่านกี่ฉบับ และคลิกกลับมายังเว็บไซต์กี่คน เพื่อให้ง่ายต่อการวางแผนทำ Email Marketing ได้อีกในอนาคตที่มา : https://blog.ourgreenfish.com