062-310-6964
sale@getmycrm.com
Menu
หน้าหลัก
หน้าหลัก
คุณสมบัติ
โซลูชั่นธุรกิจ
iSales - ระบบบริหารงานขาย
iService - ระบบบริหารงานหลังการขาย
iManager - ระบบสำหรับผู้บริหาร
Mobile - ระบบบริหารงานบนมือถือ
การติดตามกิจกรรม
การอนุมัติและการมอบหมายงาน
ราคา
ราคาแพ็กเกจ
บริการเสริม
เงื่อนไขการให้บริการ
วิธีการสั่งซื้อและชำระเงิน
ข่าวสาร
ประกาศ
บทความที่น่าสนใจ
Blog
อบรมสัมมนา
ลูกค้าของเรา
ช่วยเหลือ
คู่มือการใช้งาน
วีดีโอการใช้งาน
คำถามที่พบบ่อย FAQs
ดาวน์โหลด
นโยบายการรักษาข้อมูล
ติดต่อเรา
ติดต่อเรา
เกี่ยวกับเรา
เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
หน้าแรก
ข่าวสาร
บทความที่น่าสนใจ
วิเคราะห์ศักยภาพของลูกค้าตามข้อมูล SWOT บน myCRM
วิเคราะห์ศักยภาพของลูกค้าตามข้อมูล SWOT บน myCRM
ย้อนกลับ
หน้าแรก
ข่าวสาร
บทความที่น่าสนใจ
วิเคราะห์ศักยภาพของลูกค้าตามข้อมูล SWOT บน myCRM
วิเคราะห์ศักยภาพของลูกค้าตามข้อมูล SWOT บน myCRM
ย้อนกลับ
ในบทความนี้จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับ
- การวิเคราะห์ SWOT คืออะไร?
- ทำไมต้องวิเคราะห์ SWOT?
- จะทำการวิเคราะห์ SWOT ได้อย่างไร?
- ตัวอย่างการแสดงหน้าจอจากโปรแกรม myCRM
การวิเคราะห์ SWOT คืออะไร
การวิเคราะห์ SWOT เป็นเครื่องมือสำหรับวิเคราะห์สถานการณ์ของธุรกิจหรือโครงการ โดยมุ่งเน้นไปที่ปัจจัยภายในและภายนอกที่อาจมีผลกระทบ ซึ่ง SWOT ย่อมาจาก
Strengths (จุดแข็ง)
– จุดเด่นหรือข้อได้เปรียบของธุรกิจ เช่น ทรัพยากรที่มีคุณค่า ความเชี่ยวชาญ หรือเทคโนโลยีที่เหนือกว่า
Weaknesses (จุดอ่อน)
– ข้อจำกัดที่ทำให้ธุรกิจเสียเปรียบ เช่น ทรัพยากรที่ขาดแคลน ระบบการจัดการที่ไม่ดี หรือขาดการตลาดที่มีประสิทธิภาพ
Opportunities (โอกาส)
– ปัจจัยภายนอกที่อาจช่วยให้ธุรกิจเติบโต เช่น แนวโน้มตลาดใหม่ ความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น หรือการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่
Threats (อุปสรรค)
– ปัจจัยภายนอกที่อาจสร้างความท้าทายหรือเป็นภัยต่อธุรกิจ เช่น การแข่งขันที่เพิ่มขึ้น กฎหมายที่เข้มงวด หรือการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ
ทำไมต้องวิเคราะห์ SWOT
การวิเคราะห์ SWOT มีความสำคัญเพราะช่วยให้ธุรกิจหรือองค์กรเข้าใจสถานการณ์รอบตัวได้อย่างชัดเจน โดยมีเหตุผลหลัก ๆ ดังนี้
1. ช่วยให้ธุรกิจเห็นภาพรวมทั้งจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคในตลาด ซึ่งช่วยให้สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงภายในและภายนอกได้ดียิ่งขึ้น
2. การเข้าใจจุดแข็งและจุดอ่อนช่วยให้ธุรกิจวางกลยุทธ์ที่สามารถใช้ข้อได้เปรียบสูงสุดและแก้ไขข้อเสียเปรียบได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ยังทำให้รู้ว่าจะใช้ประโยชน์จากโอกาสที่มีอย่างไรและรับมือกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างไร
3. ช่วยสนับสนุนการตัดสินใจในเรื่องสำคัญ เช่น การขยายตลาด การลงทุนในโครงการใหม่ หรือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยข้อมูลจาก SWOT จะช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลและตรงตามสถานการณ์จริง
4. รู้จุดแข็งและจุดอ่อนสามารถกระตุ้นให้เกิดการปรับปรุงภายในองค์กร เช่น การพัฒนาบุคลากร การปรับปรุงกระบวนการ หรือการบริหารทรัพยากร
5. การใช้จุดแข็งเพื่อเติมเต็มความต้องการของตลาดและลดจุดอ่อนที่เป็นปัญหา สามารถช่วยให้ธุรกิจมีความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น ซึ่งทำให้รักษาฐานลูกค้าและขยายตลาดได้ดียิ่งขึ้น
จะทำการวิเคราะห์ SWOT ได้อย่างไร
การวิเคราะห์ SWOT สามารถทำได้ตามขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
1. ระบุและรวบรวมข้อมูล – เริ่มต้นด้วยการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือโครงการของคุณ ทั้งข้อมูลภายใน (จุดแข็งและจุดอ่อน) และข้อมูลภายนอก (โอกาสและอุปสรรค) อาจทำได้โดยการวิเคราะห์ข้อมูลจากรายงาน การสัมภาษณ์พนักงาน ลูกค้า หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
2. วิเคราะห์จุดแข็ง (Strengths) – หาความได้เปรียบและจุดเด่นขององค์กร เช่น
- มีทรัพยากรอะไรที่ดีกว่าคู่แข่ง เช่น เงินทุน ความเชี่ยวชาญ เทคโนโลยี หรือชื่อเสียงของแบรนด์
- กระบวนการทำงานหรือผลิตภัณฑ์ใดที่ทำได้ดีกว่าหรือให้ประโยชน์กับลูกค้าเป็นพิเศษ
- อะไรคือปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจสามารถรักษาลูกค้าหรือเพิ่มรายได้
3. วิเคราะห์จุดอ่อน (Weaknesses) – หาปัญหาหรือข้อเสียภายในองค์กร เช่น
- ข้อจำกัดที่ทำให้องค์กรแข่งขันได้ลำบาก เช่น การขาดทักษะในทีมงานหรือการขาดทรัพยากรบางอย่าง
- ปัญหาด้านโครงสร้าง การจัดการ หรือกระบวนการที่อาจทำให้เสียเปรียบในตลาด
- สินค้าหรือบริการที่ยังไม่เป็นไปตามความคาดหวังของลูกค้า
4. วิเคราะห์โอกาส (Opportunities) – มองหาปัจจัยภายนอกที่สามารถช่วยให้ธุรกิจเติบโต เช่น
- แนวโน้มในอุตสาหกรรม เช่น การเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยี การเติบโตของตลาดใหม่ หรือความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
- การเปลี่ยนแปลงในกฎหมายหรือข้อบังคับที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ
- ความเป็นไปได้ในการขยายธุรกิจในด้านต่าง ๆ เช่น ขยายสินค้า บริการ หรือตลาดใหม่
5. วิเคราะห์อุปสรรค (Threats) – มองหาความเสี่ยงภายนอกที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ เช่น
- การแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากคู่แข่ง
- การเปลี่ยนแปลงด้านกฎหมาย กฎระเบียบ หรือเศรษฐกิจที่อาจทำให้ธุรกิจเสียเปรียบ
- แนวโน้มที่อาจส่งผลเสียต่อธุรกิจ เช่น การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค
6. นำผลการวิเคราะห์ SWOT มาประยุกต์ใช้ – หลังจากที่ได้วิเคราะห์ทั้ง 4 ด้านแล้ว ให้นำข้อมูลมาวางแผนกลยุทธ์ต่อไปโดยใช้วิธีการดังนี้
- ใช้ จุดแข็ง เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดจาก โอกาส
- ใช้ จุดแข็ง เพื่อลดหรือจัดการกับ อุปสรรค
- ปรับปรุง จุดอ่อน เพื่อให้สามารถใช้โอกาสได้มากขึ้น
- หาวิธีลด จุดอ่อน ที่อาจทำให้ธุรกิจเสียเปรียบในกรณีที่เผชิญ อุปสรรค
การวิเคราะห์ SWOT ไม่ใช่เพียงแค่ทำครั้งเดียว แต่อาจต้องปรับปรุงเป็นประจำตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
ตัวอย่างการแสดงหน้าจอจากโปรแกรม myCRM
ใครที่ยังไม่เคยทำการวิเคราะห์ SWOT ลองมาทำกันเถอะ! โดยโปรแกรม CRM ออนไลน์ ช่วยในการบริหารจัดการข้อมูลลูกค้าแล้ว ก็ยังสามารถวิเคราะห์ SWOT ได้ด้วยค่ะ
ติดต่อเรา
Mobile Phone : 062-3106964
ID Line : @mycrm
Email :
sale@getmycrm.com
Website :
www.getmycrm.com
Facebook :
โปรแกรม CRM ออนไลน์ - myCRM
42
ผู้เข้าชม
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น
นโยบายคุกกี้
ตั้งค่าคุกกี้
ยอมรับทั้งหมด
×
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น
เปิดใช้งานตลอดเวลา
คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น เพื่อช่วยให้การทำงานหลักของเว็บไซต์ใช้งานได้ รวมถึงการเข้าถึงพื้นที่ที่ปลอดภัยต่าง ๆ ของเว็บไซต์ หากไม่มีคุกกี้นี้เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม และจะใช้งานได้โดยการตั้งค่าเริ่มต้น โดยไม่สามารถปิดการใช้งานได้
คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์
คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าใจรูปแบบการใช้งานของผู้เข้าชมและจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการใช้งานของผู้ใช้งาน
คุกกี้ในส่วนการตลาด
คุกกี้ในส่วนการตลาด ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อแสดงโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายและเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการโฆษณาสำหรับผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาสำหรับบุคคลที่สาม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี
By SoGoodWeb.com