เวลายังคงทำหน้าที่ เดินหน้าไปอยู่เสมอ และเวลานี้ก็เข้าสู่ช่วงครึ่งปีหลัง 2021 ตลอดระยะเวลา 5-10 ปีการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ถือว่าเติบโตเป็นอย่างมาก ด้วยปัจจัยสนับสนุนทางด้านเทคโนโลยีที่การสื่อสารเป็นไปอย่างสะดวกสบาย มีความง่ายดายขึ้นกว่าเดิม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อยู่ ช่องทางออนไลน์จึงกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับการขายสินค้า สร้างรายได้ให้กับธุรกิจฝ่าวิกฤตที่เกิดขึ้นให้ได้ไปก่อน แม้ว่าผู้ประกอบการจะมีความสุขกับความท้าทายในการขายสินค้าออนไลน์ แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ คือการกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดจากข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังเทรนด์อีคอมเมิร์ซ จะเป็นไปในทิศทางไหน เรามาศึกษาลงรายละเอียดกัน
สำหรับ เทรนด์อีคอมเมิร์ซที่จะเกิดขึ้นหลังปี 2021 มีดังต่อไปนี้
1. การเปลี่ยนแปลงส่วนบุคคล : การซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ แน่นอนว่าการจัดส่งสินค้าจะเป็นในรูปแบบของเดลิเวอรี่ ซึ่งการสร้างความประทับใจของขั้นตอนการจัดส่งจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจเติบโต
2. การบริการ : หากคุณไม่ดูแลผู้บริโภคหลังการขายสินค้า ย่อมส่งผลตามมาคือลูกค้าคุณจะลดน้อยลงอย่างแน่นอนในอนาคต
3. ช่องทาง Omnic : การขายของผ่านช่องทางออนไลน์นั้นการสร้างความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาถือว่าเป็นเรื่องสำคัญต่อการเพิ่ม engagement, ยอดขาย และความภักดีที่มีต่อแบรนด์
4. เป้าหมาย: ความยั่งยืน, ความเท่าเทียม, ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และจุดยืนประเด็นทางสังคม คือส่วนหนึ่งที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจได้ว่าจะสนับสนุนแบรนด์ดีหรือไม่
5. สร้างประสบการณ์ : ประสบการณ์ที่สร้างให้กับลูกค้าจะต้องเป็นไปแบบไร้รอยต่อ จากข้อมูลการวิจัย และบริการหลังการขาย
6. ตัวเลือกการจ่ายเงิน และช่องทางขนส่ง : การขายของผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซควรมีตัวเลือกให้กับลูกค้าทั้งในเรื่องการจ่ายเงิน และช่องทางการขนส่งที่มีความหลากหลาย ซึ่งอาจจะใช้แนวทาง Click and collect ที่สร้างความสะดวกสบายเวลาจ่ายเงินของลูกค้า
7. เข้าหาลูกค้าโดยตรง: มีหลายแบรนด์ที่เริ่มใช้แนวทาง DTC หรือการเข้าหาลูกค้าโดยตรงเข้ามาใช้กับธุรกิจ เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์โดยตรงระหว่างแบรนด์กับลูกค้า
8. ความคิดสร้างสรรค์ต้องเป็นเลิศ : หากคุณเข้ามาอยู่ในโลกออนไลน์ สิ่งที่ต้องเจอคือเรื่องการแข่งขันที่ค่อนข้างดุเดือด ดังนั้น เรื่องการตลาด และข้อความที่ใช้สื่อสารจะต้องมีความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจ
9. Social commerce : แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Tiktok, Instagram เข้ามามีอิทธิพลกับผู้คนเป็นอย่างมาก คาดการณ์ในปี 2027 Social commerce จะช่วยผลักดันยอดขายสูงถึง 604 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ด้วยโลกธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ผู้ประกอบการไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะต้องตามให้ทัน ซึ่งแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเป็นอีกหนึ่งช่องทางของคนทำธุรกิจสมัยนี้ มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ที่ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านเหมือนเมื่อก่อน แต่ด้วยคู่แข่งที่มีจำนวนมากจึงเป็นการบ้านของผู้ประกอบการที่จะคิดไอเดีย สร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ และเมื่อทำได้ธุรกิจของคุณก็จะได้ไปต่อ
ที่มา : https://www.smartsme.co.th/
