ปัญหาการ “ตัดราคา” ถือเป็นปัญหาโลกแตกที่ พ่อค้า แม่ค้า มักจะหัวเสียที่เจอคู่แข่งขายสินค้าแบบเดียวกันในราคาที่ถูกกว่า แล้วเราจะขายได้อย่างไรหละ? ทางออกที่เห็นกันได้ทั่วไป คือ การลดราคาตัดกันไปตัดกันมาจนสุดท้ายแทบไม่เหลือกำไร และคนที่แพ้ไป คือ คนที่มีต้นทุนสูงกว่า เจอเรื่องแบบนี้มันน่าปวดใจซะเหลือเกิน
วันนี้ ชี้ช่องรวย มีทางออกให้กับปัญหานี้ ให้คุณผู้อ่านได้แก้เกมการตัดราคาเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดต่อไปได้แบบยั่งยืน และถึงแม่สินค้าของเราจะมีราคาแพงกว่าแต่ลูกค้าก็ยังเลือกที่จะซื้อกับเราโดยที่ไม่สนใจคู่แข่งว่าจะราคาถูกแค่ไหน มาดูกันเลยดีกว่าว่ามีวิธีแก้อย่างไรบ้าง
1. หาความแตกต่าง สร้างจุดเด่นที่ดีกว่าให้ได้
ตีตลาดด้วยสินค้าใหม่ที่ลูกค้าต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาสินค้าเก่าให้ดีขึ้นหรือการสร้างสินค้าใหม่เลย ก็จะทำให้เรามีความได้เปรียบเหนือคู่แข่งหนึ่งขั้น หากเลือกได้ให้คุณเลือกที่จะปรับปรุงสินค้าเสมอ เพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบหรือการขายสินค้าประเภทเดียวกันแต่ราคาถูกกว่า ซึ่งเราสามารถสร้างจุดเด่นได้หลากหลายรูปแบบ เจ้าของธุรกิจต้องมองให้ออกว่าสินค้าของตนสามารถพัฒนาหรือทำการตลาดได้อย่างไรบ้าง
2. ซื้อใจลูกค้าให้ได้
คิดก่อนว่าลูกค้าต้องการอะไร? อะไรที่ลูกค้ายอมจ่ายให้ได้มา? ไม่ว่ากิจการของเราจะทำกลยุทธ์การตลาดอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร ช่องทางในการขายสินค้า และตัวสินค้าเอง ต้องตอบโจทย์ ต้องแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้ เหมาะกับแต่ละคนได้ยิ่งดี ที่สำคัญอย่าคิดเอาเอาว่าลูกค่าอยากได้อะไร มีปัญหาอะไร ไปถาม ไปหาข้อมูลด้วย ลูกค้าถึงจะเห็นค่าของ สินค้าของเรา และจงจำไว้ว่าการลดราคาไม่ใช่ทางออก เพราะลูกค้าอาจมองคุณค่าของสินค้าเราต่ำลง
3. อย่าเอาราคาของคู่แข่งมาเป็นที่ตั้ง
การตั้งราคาสินค้าเราควรตั้งจากคุณค่าของสินค้านั้นๆ เพราะการตั้งราคาสินค้าตามคุณค่าของตัวมันเองเป็นการบอกลูกค้าว่าสินค้านี้ไม่ใช่ของธรรมดาเหมือนคู่แข่ง มันพิเศษกว่าของคนอื่น นั่นจะทำให้สินค้าของคุณเด่นออกมาจากสินค้าอื่นๆในสายตาของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเดียวกัน ฉะนั้นถึงจะตั้งราคาให้สูงกว่าคู่แข่ง หรือคู่แข่งจะลดราคาก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป แต่อย่าลืมว่าการที่จะสือให้ลูกค้าเห็นคุณค่าสินค้าของเรานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
4. เน้นขายสินค้าที่ตอบโจทย์ มากกว่าขายสินค้าราคาถูก
เราควรมุ่งเน้นการขายสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้มากกว่าเรื่องของราคาโดยเสนอสินค้าพร้อมบริการที่เกี่ยวข้องให้ลูกค้าด้วย (เช่นบริการจัดส่ง) บริการที่เพิ่มขึ้นมาสะท้อนให้ลูกค้าเห็นว่าแบรนด์ของเราใส่ใจลูกค้าจริงๆ นั่นจะทำให้คู่แข่งที่ขายสินค้าราคาถูกไม่สามารถสู้สินค้าที่สามารถตอบโจทย์ของเราได้อย่างแน่นอน
5. หาแหล่งค่าส่งต้นทุนต่ำให้เจอ
อย่าเพิ่งมองว่าสินค้าต้นทุนต่ำราคาถูกจะเป็นสินค้าไม่มีคุณภาพเสมอไป การเข้าถึงแหล่งผลิตจะช่วยให้เราได้สินค้าในราคาต้นทุนอย่างแท้จริง โดยที่ไม่ต้องโดนบวกราคาจากพ่อค้าคนกลาง ซึ่งจะทำให้เราได้กำไรมากกว่าเดิม หรือสามารถขายสินค้าในราคาที่ถูกลงแต่กำไรยังเท่าเดิมสามารถเอาชนะคู่แข่งได้
6. มองหาตลาดใหม่ในลูกค้ากลุ่มเดิม
ตลาดใหญ่ๆ ของเราที่อาจจะไม่ค่อยโตแล้ว สามารถถูกแบ่งเป็นตลาดเล็กๆ ที่สร้างยอดขายและกำไรได้มากกว่าเดิม หากเราสามารถคัดตลาดที่ลูกค้าไม่ได้ใส่ใจเรื่องความต่างของราคาออกมาได้เราก็จะยังสามารถขายสินค้าได้ในราคาที่สูงกว่าตลาดอื่น
ที่มา : https://cheechongruay.smartsme.co.th/