6 ข้อผิดพลาดของ Content Marketing ที่นักการตลาดควรหลีกเลี่ยง

6 ข้อผิดพลาดของ Content Marketing ที่นักการตลาดควรหลีกเลี่ยง




      Content Marketing คือการทำคอนเทนต์ที่หวังผลทางการตลาด ดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายให้เกิดการจำจดสินค้าและบริการของแบรนด์ เป็นหนึ่งในการลงทุนของแบรนด์ธุรกิจที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม การสร้างคอนเทนต์ก็เป็นความท้าทายหนึ่งสำหรับนักการตลาด ความผิดพลาดจะทำให้เสียโอกาสที่จะได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมาย

      จากผลสำรวจพบว่า 92% ของนักการตลาดระบุว่า คอนเทนต์ถือเป็นสินทรัพย์อย่างหนึ่ง นักการตลาดต้องสร้างคอนเทนต์เพื่อให้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่คุ้มค่า (ROI) จึงได้สรุป 6 ข้อผิดพลาดของ Content Marketing ที่นักการตลาดควรหลีกเลี่ยง เพื่อช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งผ่านแคมเปญต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไม่สร้างเนื้อหาที่ใช้ซ้ำได้

      เนื้อหาที่มีคุณภาพต้องใช้เวลาและทรัพยากรเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่นักการตลาดจะต้องมองหาผลตอบแทนจากการลงทุนในแต่ละครั้ง การใช้เนื้อหาซ้ำก็ไม่ควรเหมือนกันทั้งหมด แต่สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมในแต่ละแพลตฟอร์ม

ตัวอย่างเช่นสร้างคอนเทนต์แบบภาพชุดใน Facebook ปรับเปลี่ยนเป็นบทความในเว็บไซต์ ลงสรุปเป็นภาพเดี่ยวใน Twitter เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาอ่านเนื้อหาเพิ่มเติมในช่องทางอื่นๆ เป็นต้น

ไม่ได้คำนึงถึงการขาย

      ลูกค้ามีทั้งกระบวนการรับรู้ การตัดสินใจ การขายและอื่นๆ ยิบย่อยอีกมากมาย หากนักการตลาดให้ความสำคัญกับเนื้อหาเพื่อดึงดูดความสนใจจากลูกค้ามากกเกินไป โดยไม่คำนึงถึงกระบวนการที่ลูกค้าจะซื้อสินค้าหรือบริการ ก็จะพลาดโอกาสในการขายไป

      นักการตลาดควรสร้างคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาครอบคลุมทั้งการสร้างกระบวนการรับรู้ การตัดสินใจ และการขายเพื่อให้ได้บรรลุเป้าหมายในแต่ละคอนเทนต์

การมองข้าม User-generated content

      User-generated content คือเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น เป็นเนื้อหาที่ไม่ต้องจ่ายเงินซึ่งมีทั้งรูปภาพ วิดีโอ การรีวิว และบทความ

      จากผลสำรวจพบว่า 70% ของลูกค้าเชื่อมั่นในรูปภาพที่มาจากลูกค้าด้วยกันเองมากกว่ารูปภาพที่มาจากแบรนด์ นักการตลาดที่มองข้าม user-generated content จะพลาดโอกาสในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ซึ่งสามารถประหยัดได้ทั้งเวลาและงบประมาณ ที่สำคัญนักการตลาดควรค้นหาว่าเนื้อหาแบบไหนที่ทำให้ลูกค้าสร้างสรรค์เนื้อหาและมีส่วนร่วมกับแคมเปญ การใช้โซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Instagram, TikTok ก็เป็นช่องทางที่ดีในการสร้างแคมเปญเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้า

ไม่มีขั้นตอนอนุมัติคอนเทนต์

      การมีกระบวนการตรวจสอบจากเพื่อนร่วมงานหรือลูกค้าจะช่วยปรับเนื้อหาและแก้ไขก่อนที่จะเผยแพร่ เพื่อให้มั่นใจว่ารายละเอียดของคอนเทนต์ตรงกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ นักการตลาดควรทำให้มั่นใจว่าคอนเทนต์ผ่านกระบวนการอนุมัติ แม้อาจจะใช้เวลาในกระบวนการมากกว่าเดิม แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะส่งผลดีต่อแบรนด์มากกว่าที่จะเกิดสื่อสารที่ผิดพลาดขึ้น

ไม่รีวิวประสิทธิภาพของคอนเทนต์

      หนึ่งในข้อผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของนักการตลาดคือการไม่ใช้เวลาทบทวนประสิทธิภาพของคอนเทนต์ ไม่ดูข้อมูลเชิงลึกของข้อมูลว่าดีหรือแย่ ทำไมถึงมีประสิทธิภาพดี และตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่

      การสร้างคอนเทนต์เป็นโจทย์ที่กว้าง เนื้อหามีหลายประเภท บางประเภทลูกค้าอาจสนใจ บางประเภทลูกค้าก็ไม่สนใจ การตรวจสอบประสิทธิภาพจะช่วยให้เรียนรู้ว่าคอนเทนต์แบบไหนที่ลูกค้าชอบ ก็สามารถนำผลไปพัฒนาแคมเปญการตลาดให้ดียิ่งขึ้น

โปรโมทคอนเทนต์ไม่พอ

      คอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งไม่ได้สิ้นสุดที่ขั้นตอน Publish นักการตลาดควรจะใช้เครื่องมือของแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อให้เนื้อหาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะทำให้ผลตอบแทนจากการทำคอนเทนต์มีมากยิ่งขึ้น

      แนวคิดหนึ่งที่นักการตลาดสามารถนำไปปรับใช้คือ กฎ 80/20 ใช้เวลา 20% ในการสร้างสรรค์เนื้อหา และใช้อีก 80% ในการโปรโมทผ่านช่องทางต่างๆ ทั้ง โซเชียลมีเดีย บล็อก อีเมล และอื่น ๆ ด้วยการคำนึงถึงข้อผิดพลาดต่างๆ จะช่วยให้นักการตลาดสร้างคอนเทนต์และแคมเปญได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งการสร้างคอนเทนต์ การอนุมัติคอนเทนต์ เนื้อหาของลูกค้า และการตรวจสอบประสิทธิภาพของคอนเทนต์ เพื่อพัฒนาและปรับปรุงให้คอนเทนต์สร้างผลตอบแทนให้กับการลงทุนของแบรนด์

ที่มา : https://www.thumbsup.in.th/

 537
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์