8 เทคนิค เปลี่ยนยอด Like ให้เป็นยอดขาย

1. รักษาฐานลูกค้าเดิม

• การรักษาผู้ติดตามที่มีอยู่ใน Facebook เป็นเรื่องที่สำคัญในการเริ่มขายสินค้า เพราะเป็นจุดเริ่มต้นที่เราจะสามารถเปลี่ยนจากผู้ติดตาม
  เป็นลูกค้าของเรา
• ผู้ที่เล่น Facebook โดยทั่วไปไม่ได้มีจุดประสงค์ Log in เข้ามาซื้อของ แต่เข้ามาเพื่อติดต่อหากันทั่วไป ดังนั้น เราต้องดึง Users เหล่านี้เข้ามาหาเรา ไม่ว่าจะเป็นการตอบ Comment แนะนำสินค้าใหม่ หรือว่าการเล่าเรื่องราวของสินค้าให้น่าสนใจ
• ยิ่งเรามีการตอบโต้หรือว่ามีสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ติดตามมากเท่าไร ยิ่งทำให้โอกาสการเปลี่ยนผู้ติดตามเป็นลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น และยิ่งทำให้ลูกค้าอยู่กับเรานานยิ่งขึ้น
  
  

2. เพิ่มฐานลูกค้าใหม่

• การเพิ่มยอดไลค์อย่างต่อเนื่อง ยิ่งมากยิ่งทำให้ Facebook Page ของคุณมีคุณภาพและน่าเชื่อถือ ผู้ติดตามที่มากขึ้นจะทำให้ทุกครั้งที่โพสต์
  ในหน้าเพจทำให้มีโอกาสเข้าถึงลูกค้าได้ง่าย
• การเพิ่มยอดไลค์หรือผู้ติดตามขึ้นอยู่กับว่าคุณโพสต์อะไร และมีความน่าสนใจต่อกลุ่มเป้าหมายมากน้อยแค่ไหน เพราะถ้าการโพสต์มีประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมาย ยอดของคนติดตามเพจของคุณก็จะมีคุณภาพและเป็นกลุ่มลูกค้าที่จะซื้อสินค้าและบริการของคุณ
  
  

3. ใส่ใจสร้าง Content

• การโพสต์ content หรือเนื้อหา ในแต่ละครั้งเราต้องคำนึงว่าเป็น content ที่น่าสนใจและแฝงการขายไปในตัว เพราะการโพสต์ในหน้าเพจ
  ของเราต้องมีอะไรที่ทำให้ลูกค้าคิดว่าได้มากกว่าเข้ามาซื้อของ
• สร้างคุณค่าให้กับเพจของเราเองให้ดูแพงดูน่าติดตาม เพราะจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของสินค้าและบริการของเราด้วย
  
  

4. เน้นการมีส่วนร่วม ของลูกค้าบน Facebook

• ส่งเสริมการ Share เพจของคุณอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการทำโปรโมชั่น กด Like กด Share เพจ เพื่อแลกกับส่วนลดหรือของรางวัล
  เพราะการ Share เพจเป็นเหมือนกับการทำการตลาดอย่างหนึ่งให้กับธุรกิจของคุณ
• ถ้ามีการ Share เพจของคุณมากเท่าไร จะทำให้มีคนเข้าถึงธุรกิจของคุณง่ายมากขึ้นเท่านั้น
  
  

5. เลือกช่วงเวลาในการโพสต์

• เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการโพสต์ของเรา เพื่อให้คนเห็นมากที่สุด โดยศึกษาจากพฤติกรรมกลุ่มลูกค้าของเรา และจำแนกช่วงเวลาของแต่ละกลุ่ม แต่โดยส่วนมากจะเล่นในช่วงเย็นหลังจากการทำงาน และเลิกเรียน เพราะโดยพื้นฐานของลูกค้าส่วนมากช่วงกลางวัน
  จะเป็นเวลาทำงาน
• ในสถิติของ Quick Sprout กล่าวว่าคนเล่น Facebook มากที่สุด ในวันพฤหัสบดี และวันศุกร์ช่วงบ่าย 1 ถึง บ่าย 3
• แต่ทั้งหมดนี้ในการเลือกโพสต์เป็นเวลาต้องขึ้นอยู่กับกลุ่มลูกค้าเราเป็นใคร และโดยส่วนมากเล่น Facebook เวลาไหน
  
  

6. โปรโมทด้วย Facebook Ads

• เมื่อเราโพสต์ content และจัดโปรโมชั่นแล้ว แต่ก็ยังมีคนเข้าถึงน้อย การทำโฆษณาด้วย Facebook Ads สามารถช่วยให้เราขยายกลุ่มลูกค้า
  และคนเข้าถึงได้มากขึ้น โดยที่เราสามารถวางงบประมานของเราในการทำโฆษณาได้ด้วยและยังสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมาย
  ที่เราอยากให้เข้าถึงได้อีกด้วย
• การลงโฆษณาทำให้เกิด action ต่อกลุ่มลูกค้าที่เราอยากเข้าถึง ถ้าลูกค้าเข้าถึงง่ายมากเท่าไรยิ่งทำให้เกิดการซื้อขายมากขึ้นเท่านั้น
  
  

7. แมทช์ลูกค้า สร้างความประทับใจ

• สร้างความประทับใจแก่ลูกค้าในการนำเสนอตัวเองและภาพลักษณ์ของธุรกิจ ให้ลูกค้ามีความรู้สึกว่าคุ้มค่าในการบริการของเรา
• ต้องรู้จักและเข้าใจลูกค้าว่าลูกค้าของเราต้องการอะไร ให้สิ่งที่ลูกค้าต้องการตอบสนองบริการต่อลูกค้าให้รวดเร็วที่สุด
• แก้ปัญหาให้แก่ลูกค้าได้ถูกต้องตรงจุดและใจเย็น
• สร้างความสะดวกสบายในการบริการ และความสะดวกแกลูกค้าในการซื้อสินค้าและบริการ ไม่ยุ่งยากตัดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นออก
  
  

8. ใส่ใจการตอบคำถาม และติดตามผลตอบรับจากลูกค้าอย่างใกล้ชิด

• ดังคำกล่าวที่ว่า พิชิตใจลูกค้าคือหัวใจของงานบริการ แน่นอนว่านอกจากการขายสินค้าและบริการแล้ว เรายังต้องมีบริการหลังการขาย
  หรืออาจจะเป็นบริการก่อนปิดการขายด้วย
• งานบริการลูกค้าคืองานที่เอาใจลูกค้ามาใส่ใจเรา ทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจมาก จนถึงมากที่สุด เพื่อให้ลูกค้าเลือกที่จะใช้บริการของเรา
  ไปอีกนาน แทนที่จะเปลี่ยนใจไปใช้บริการของผู้ให้บริการรายอื่น ดังนั้น ผู้ทำงานด้านงานบริการลูกค้า
  จึงต้องเข้าใจ และมีใจรักการทำงานด้านนี้เป็นอย่างดี จึงจะทำให้การทำงานด้านนี้มีความสุขและประสบผลสำเร็จ
• การติดตามผลตอบรับจากลูกค้าทำให้เราได้มาพัฒนาธุรกิจของเรา ได้รู้ถึงจุดด้อยและต่อยอด