โรคยอดฮิตสำหรับคนวัยทำงานทั้ง 5 มีอะไรบ้าง มาดูกันดีกว่าค่ะ
TOXIC POSITIVITY โรคมองโลกในแง่บวกเกินไป
"โรคมองโลกในแง่บวกเกินไป" หรือที่เรียกว่า "Toxic Positivity" เป็นสภาวะที่ผู้คนมองโลกในแง่บวกอย่างเดียวโดยไม่ยอมรับความซื่อสัตย์หรือความรู้สึกที่ไม่ดี แม้ว่ามันจะปรากฏเป็นสิ่งที่ดีที่เราจะมองโลกในแง่บวก เพื่อมองเห็นโอกาสและสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้น แต่การตัดสินใจที่จะมองโลกในแง่บวกเท่านั้นอาจทำให้เราละเลยถึงความซื่อสัตย์และความรู้สึกที่ไม่ดีของตนเองและคนรอบข้าง
Toxic Positivity อาจเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่คนพยายามจับตามองโลกในแง่บวกโดยไม่สนใจหรือไม่ยอมรับความซื่อสัตย์ที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจทำให้ผู้คนที่ต้องการช่วยเหลือหรือสนับสนุนรู้สึกว่าความรู้สึกของตนไม่ได้รับการยอมรับ หรือว่ามันไม่สำคัญ
การมองโลกในแง่บวกมีข้อดีมากมาย แต่ควรจำไว้ว่าเราก็ต้องเป็นมนุษย์ที่มีความรู้สึกที่มีค่า ไม่ใช่เพียงแค่ต้องการจะรู้สึกดีตลอดเวลา ความซื่อสัตย์และการเห็นคุณค่าในความรู้สึกของเราเองและของผู้อื่นมีความสำคัญเช่นกัน ดังนั้น ควรทำความเข้าใจถึงความรู้สึกของตนเองและผู้อื่นอย่างสมบูรณ์แบบโดยไม่เพียงแต่มองโลกในแง่บวกเท่านั้น
PRINCE SYNDROME โรคยึดความคิดตัวเองเป็นใหญ่
"Prince Syndrome" เป็นเงาของคำว่า "Princess Syndrome" ซึ่งในที่นี้เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมที่ผู้ชายมีแนวโน้มที่จะรู้สึกว่าตนเองมีค่ามากเกินไป และควรได้รับการรับรู้และการจัดการที่พิเศษเหนือกว่าผู้อื่นโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน ส่วนมากจะมีการเกี่ยวข้องกับความคิดว่าตนเป็นคนพิเศษและมีสิทธิพิเศษเหนือผู้อื่น
ผู้ที่มี "Prince Syndrome" อาจมีความผิดเชิงกายภาพและความเจริญพันธุ์ที่มากเกินไป ซึ่งอาจทำให้พฤติกรรมของเขามีลักษณะเป็นอิสระทางเพศ รวมถึงความเชื่อที่ตัวเองมีความสำคัญมากกว่าคนอื่น ทำให้พวกเขาเกิดความผิดพลาดในการสัมผัสสังคมและการร่วมงานกับผู้อื่น
การรับรู้ว่าทุกคนมีความสำคัญและมีคุณค่าอย่างเท่าเทียมกันเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้พวกเราเป็นผู้ให้ความเคารพและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นอย่างเท่าเทียมกัน การมองโลกในแง่บวกและการเชื่อว่าตนเองมีค่ามีความสำคัญ แต่ยังควรมีการยอมรับความเป็นมนุษย์ที่มีข้อบกพร่องและการต้องการการรับรู้และการเคารพจากผู้อื่นเช่นกัน
MISOPHONIA โรคเกลียดเสียง
"Misophonia" เป็นภาวะที่เกี่ยวกับการมีความไม่สบายหรือความเดือดร้อนอย่างมากในการได้ยินเสียงบางอย่าง ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่มีภาวะนี้รู้สึกเครียด โกรธ หรือไม่สบายใจ โดยมักจะเป็นเสียงที่ธรรมดาที่ผู้คนปกครองทนได้ เช่น เสียงกระบวนการย่ำยี การกินอาหารหรือการดื่มน้ำ การหาว เสียงของวัตถุที่มีเสียงเสียงดัง หรือเสียงของบุคคลอื่นที่เครียด
อาการของ Misophonia สามารถเกิดขึ้นได้ในวัยใดก็ได้ แต่มักจะมีแนวโน้มที่จะเริ่มต้นในวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่เยาว์ ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนทางจิตใจ และมักจะไม่ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงของอาการนี้
การจัดการกับ Misophonia อาจทำได้โดยการใช้เทคนิคการจัดการความเครียดและการเรียนรู้วิธีการเรียนรู้ที่สามารถช่วยลดความรู้สึกของความไม่สบายใจหรือความเดือดร้อน อาจมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการพึ่งพาทางจิตใจ การใช้เทคนิคการหายใจ หรือการใช้การเรียนรู้ปฏิบัติการแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตาม การรักษาโรคเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและควรปรึกษาแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม
STUDENT SYNDROME โรครอ Deadline
"Student Syndrome" เป็นสภาวะที่พบได้ในนักศึกษาหรือนักเรียนที่มักจะลังเลเรื่องการทำงานหรือการเรียนรู้ไปจนกว่าจะใกล้เข้าสู่เวลาส่งงานหรือการสอบ แล้วจึงทำงานหรือเรียนรู้อย่างใจจดใจจ่อในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่เวลาจะหมดลง ส่งผลให้เกิดความเครียดและกังวลเพิ่มขึ้นเมื่อต้องทำงานในเวลาที่ใกล้จะหมดลง
การแก้ไข "Student Syndrome" อาจจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ต่างๆ เพื่อช่วยให้การเรียนรู้หรือการทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและไม่เกิดความเครียด ต่อไปนี้คือวิธีการที่สามารถช่วยลดอาการของ "Student Syndrome":
การวางแผนเป้าหมาย: กำหนดเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวสำหรับงานหรือการเรียนรู้ เช่น กำหนดเป้าหมายรายวันหรือรายสัปดาห์ และใส่ว่าจะทำอะไรในแต่ละวัน
การจัดการเวลา: ใช้เทคนิคการจัดการเวลา เช่น การใช้ปฏิทินหรือตารางงาน เพื่อช่วยวางแผนกิจกรรมและงานให้เป็นระเบียบ
การเริ่มต้นทันที: ไม่ควรรอให้เข้าสู่ช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่จะเริ่มทำงาน ควรเริ่มต้นทำงานหรือเรียนรู้ทันทีเมื่อได้รับการมอบหมายหรือกำหนดเวลา
การทำงานหรือการเรียนรู้เป็นระยะ: แบ่งงานหรือเนื้อหาการเรียนรู้ออกเป็นส่วนย่อยๆ และทำงานหรือเรียนรู้บ้างเบาๆ ในแต่ละรอบเพื่อไม่ให้รู้สึกหนักและเหนื่อยจนเกินไป
การหาความช่วยเหลือ: หากมีความจำเป็น ควรขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงานหรือครอบครัว เพื่อช่วยในการดำเนินงานหรือการเรียนรู้ให้สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
TEXT NECK SYNDROME โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทส่วนคอ
"Text Neck Syndrome" เป็นสภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อมีการใช้สมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ โดยที่คอจะโค้งไปด้านหน้าเกินไปในระหว่างการมองหน้าจอ เป็นเวลานาน ซึ่งอาจทำให้กระดูกทับเส้นประสาทในส่วนของคอเกิดการเคลื่อนไหวและรบกวนภาวะที่ดีของกระดูกสันหลัง
สาเหตุหลักของ Text Neck Syndrome คือการนำคอไปโค้งไปด้านหน้าเกินไปในระหว่างการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่อคุณกำลังมองหาและใช้งานสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเป็นเวลานานๆ โดยที่ไม่มีการรับรู้ถึงท่านั่งหรือท่าทางที่ถูกต้อง เมื่อใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ คุณอาจมีแนวโน้มที่จะเอียงหน้าอกไปข้างล่าง และโค้งคอไปด้านหน้า
การป้องกัน Text Neck Syndrome รวมถึง: