062-310-6964     sale@getmycrm.com    

14 เทรนด์ การตลาดออนไลน์ ปี 2022 ที่ต้องจับตา และต้องดูเรื่องไหนเป็นพิเศษ

14 เทรนด์ การตลาดออนไลน์ ปี 2022 ที่ต้องจับตา และต้องดูเรื่องไหนเป็นพิเศษ

อนาคตของการ รับทำการตลาดออนไลน์ หรือ Digital Marketing จะเป็นอย่างไร? งานอะไรในสายอาชีพนี้ที่ตลาดต้องการ? และอนาคตของโซเชียลมีเดียจะเจอกับหายนะหรือไม่? เว็บไซต์ต่างประเทศได้สรุปทิศทางหรือเทรนด์สำหรับปี 2022 เอาไว้แล้ว เพื่อให้เหล่านักการตลาดเตรียมรับมือกันในปีหน้า

1. Content Marketing จะเปลี่ยนเป็น “Content Selling”
นักการตลาด จำนวนมากได้ตระหนักถึงความสำคัญของการทำคอนเทนต์ด้านการตลาด ซึ่งจากรายงานของสถาบัน Content Marketing Institute พบว่า 93% ของนักกการตลาดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในการทำการตลาดแบบ Business to Business (B2B) ระบุว่าที่ผ่านมาองค์กรของพวกเขามุ่งมั่นกับการ Content Marketing แต่ปัจจุบันบริษัทเหล่านี้กำลังปรับเปลี่ยนแนวทางในการทำคอนเทนต์ไป Content Selling เพื่อสร้างหลักประกันทางตลาด

นั่นหมายความว่า คอนเทนต์ต่าง ๆ จะต้องเอื้อต่อกระบวนการขาย และทีมการตลาดจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่จะสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้สอดคล้องกับเส้นทางของกลุ่มเป้าหมายก่อนจะมาเป็นลูกค้าของเรา ซึ่งการวัดผลกระทบจากการทำการตลาดถือเป็นสิ่งสำคัญที่ชี้วัดความสำเร็จจากการกำหนด KPI ที่เหมาะสมกับ Content Marketing

2. ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์การตลาดแบบ All-in-One
แนวโน้มที่เกิดขึ้นใหม่ในตลาดดิจิทัล หนึ่งในนั้น คือการเปลี่ยนไปใช้ซอฟต์แวร์แบบครบวงจร ด้วยการลงชื่อเพียงครั้งเดียว เพื่อใช้เครื่องมือทั้งหมดของ Liana Technologies จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ การทำงานของ นักการตลาดและช่วยประหยัดเวลา

3. ยิงโฆษณาหากลุ่มเป้าหมายแม่นยำยิ่งขึ้น
ปกติแล้วผู้คนมักจะไม่สนใจโฆษณาที่ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง หรือรุกล้ำความเป็นส่วนตัวมากเกินไป ซึ่งจากการวิจัยโดย Digital Connections พบว่าผู้คน 49% จะไม่สนใจแบรนด์ หากรู้สึกว่าโฆษณานั้น ๆ ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง ขณะที่ 36% ของผู้ที่ตอบแบบสอบถามกลับมา มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่ส่งข้อความหรือโฆษณาที่เหมาะสมกับพวกเขา นั่นหมายความว่า ทิศทางของการโฆษณาออนไลน์ในอนาคตจะตรงกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำยิ่งขึ้น

4. ใช้เสียงค้นหาสินค้าที่ต้องการ (Voice Search)
การใช้เสียงค้นหาสินค้าหรือสิ่งที่ต้องการ (Voice Search) ดูเหมือนจะมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยคาดว่าเฉพาะที่สหรัฐอเมริกาประเทศเดียว ยอดขายจาก Voice Commerce หรือการสั่งซื้อสินค้าด้วยเสียงน่าจะทำเงินได้สูงถึง 4 หมื่นล้านดอลลาร์เลยทีเดียวในปี 2022 ดังนั้น จึงควรมี Voice Search ไว้รองรับกลุ่มลูกค้าเสียตั้งแต่วันนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานมากขึ้น

5. งานใหม่ด้านการตลาด
เมื่อมีการเติบโตด้าน Big Data จึงส่งผลให้งานการตลาดที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์และตีความข้อมูลเป็นที่ต้องการมากขึ้น ซึ่งมหาวิทยาลัยบอสตันมองว่า งานด้านการตลาดอย่างตำแหน่ง นักวิเคราะห์วิจัยการตลาด (Market Research Analyst) จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นถึง 41.2 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่งานที่เกี่ยวกับ Growth Hacking ในการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ที่หลากหลาย เพื่อให้กิจการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจึงเป็นที่ต้องการมากขึ้น

6. การตลาดเฉพาะบุคคล
90% ของแบรนด์ต่าง ๆ จะใช้การตลาดเฉพาะบุคคล ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการทำการตลาดที่นำเสนอสินค้า บริการ หรือคอนเทนต์ที่ตรงกับลูกค้าเป็นรายบุคคล ทำให้คาดว่าในอนาคตบริษัทต่าง ๆ จะปรับเปลี่ยนเว็บไซต์ของตนเองให้เจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะบุคคล เหมือนอย่างเว็บไซต์ Amazon ที่หน้าแรกของเว็บไซต์จะวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้งาน ก่อนจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความสนใจหรือความสนใจของคนนั้น ๆ

7. การขายและการตลาดจะสอดคล้องกัน
ความนิยมที่มีเพิ่มขึ้นของเทคโนโลยี อาทิ แพลตฟอร์มการตลาดอัตโนมัติ จะทำให้งานด้านการขายและการตลาดดำเนินไปอย่างสอดคล้องกลมกลืนกันยิ่งขึ้น ซึ่งจากผลการสำรวจพบว่า 1 ใน 3 ระบุว่าระบบการตลาดอัตโนมัติช่วยให้เกิดความร่วมมืออย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่างงานด้านการขายและการตลาด

8. การลงทุนด้านการตลาดออนไลน์จะเติบโตขึ้น
ปัจจุบันบริษัทต่าง ๆ มีการใช้จ่ายด้านการวัดผลตอบแทนจากการลงทุน (Return on investment -ROI) มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และการลงทุนในด้านนี้ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย โดย The Drum คาดการณ์ว่าตลาดซอฟต์แวร์การตลาดออนไลน์ทั่วโลก จะเติบโตจาก 37.48 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2017 เป็น 74.96 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2022

ส่วน CMO วิเคราะห์ว่าตลาดจะเติบโตเป็นพิเศษจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในการโฆษณาออนไลน์ โดยคาดว่าภายในปี 2022 งบประมาณ 87% ของการตลาด จะถูกนำมาทุ่มกับการทำการคลาดออนไลน์

9. พฤติกรรมลูกค้าใหม่
เทรนด์การตลาดออนไลน์ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ Generation Z (Gen-Z) คือผู้บริโภคกลุ่มใหญ่คิดเป็น 40% ของผู้บริโภคทั้งหมด ดังนั้น การตลาดในอนาคตจึงต้องพุ่งเป้าไปที่การตอบสนองพฤติกรรมของลูกค้าใหม่กลุ่มดังกล่าว ด้วยวิธีการเหล่านี่

ร่วมงานกับเหล่า Influencer ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของกลุ่ม Gen-Z โดยพบว่ามีถึง 86% ของผู้หญิงที่ซื้อสินค้าตามคำแนะนำของ Influencer ในโซเชียลมีเดีย
มุ่งเน้นแสนอคอนเทนต์ที่เป็นวิดีโอ ซึ่งสถิติในปี 20108 พบว่า 95%ของคนที่ได้ดูวิดีโอจะสนใจหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ
ต้องมีความโปร่งใส เพราะ Gen-Z ให้ความสำคัญกับเรื่องความโปร่งใส หากเชื่อมั่นแล้วจะตัดสินใจซื้อสินค้าตามได้ง่ายขึ้น
10. ความโปร่งใส
94% ของผู้บริโภคระบุว่าพวกเขาจะยังคงภักดีต่อแบรนด์ที่มีความโปร่งใส ไม่หลอกลวงผู้บริโภค ดังนั้น หาก

บริษัทใดล้มเหลวในการมอบความไว้วางใจในเรื่องความโปร่งใส และความถูกต้อง ก็จะพลาดโอกาสในการขายไป ขณะที่

สหภาพยุโรปก็ออกกฎหมายที่เป็นมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (GDPR) และมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2018 ด้วย เพื่อแสดงให้เเห็นถึงความสำคัญของการจัดการข้อมูลลูกค้าอย่างโปร่งใส

11. มีแอปพลิเคชันรองรับ
จากข้อมูลของ AdAge พบว่าการใช้จ่ายผ่านมือถือของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นเป็น 65 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2020 ซึ่งการการพัฒนาเทคโนโลยี 5G จะช่วยอำนวยความสะดวกให้นักการตลาดสามารถใช้ข้อมูลมือถือ และถ่ายทอดข้อความที่ต้องส่งไปยังผู้บริโภคผ่านแอปพลิเคชันได้ง่ายขึ้น เพราะทุกอย่างสามารถทำได้ผ่านแอปฯ ในมือถือ

12. พฤติกรรมใหม่ของโซเชียลมีเดีย
อาจเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อหากจะบอกว่าทุกวันนี้ผู้คนมีแนวโน้มที่จะใช้ปิดการใช้งานโซเชียลมีเดียของพวกเขามากขึ้น โดยข้อมูลจาก GlobalWebIndex พบว่า 32% ของผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา ตัดสินใจปิดการใช้งานบัญชีโซเชียลมีเดียของพวกเขาในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น นักการตลาดจึงต้องมีความขัดเจนในการสร้างคอนเทนต์ที่ดึงดูดความสนใจได้มากขึ้น เช่นการนำเทคโนโลยี VR และ AR มาใช้ รวมถึงใช้ข่องทางอื่น ๆ ร่วมด้วย อาทิ การส่งข้อความการตลาดผ่านอีเมล และการประชาสัมพันธ์

13. การตลาดแบบทันท่วงที
การตลาดแบบทันท่วงที (Just-in-time marketing) มุ่งเน้นไปที่การสร้างเนื้อหาทางการตลาดที่จำเป็น และต้องปรับให้ เข้ากับความต้องการของผู้บริโภคได้ทันเวลาที่พวกเขาพร้อมจะซื้อ ด้วยการใช้แพลตฟอร์มการตลาดอัตโนมัติ ที่สามารถส่งข้อความไปยังผู้บริโภคได้ทันท่วงที ซึ่งรายงานจาก Accenture Interactive พบว่า 38% ของบริษัทที่ทำการตลาดแบบ Just-in-time marketing มีรายได้ต่อปีเพิ่มขึ้นมากกว่า 25%

14. การเพิ่มขึ้นของ AI
เทคโนโลยี AI จะถูกนำมาใช้กับการทำการตลาดออนไลน์มากขึ้น ซึ่ง Gartner วิเคราะห์ไว้ด้วยว่าฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ AI จะเข้าไปอยู่ในผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ เกือบทุกตัวในอนาคต

ที่มา : https://www.iplandigital.co.th/
 298
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์