ตั้งแต่ปี 2020 จนมาถึง 2021 อีกไม่กี่เดือนจะเข้าปี 2022 แล้ว คนทั้งโลกกว่า 7,000 ล้านคนรู้จักในเวลาที่เร็วเหลือเชื่อคงหนีไม่พ้น Covid-19 และเพราะตัวละครนี้เองที่ทำให้แต่ละบทของการดำเนินชีวิตมนุษย์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ทุกวันนี้หลาย ๆ องค์กรก็มีการเปลี่ยนแปลงตัวเองจากที่เคยเป็นไปสู่ระบบออนไลน์กันมากขึ้น เหตุผลหนึ่งที่จำเป็นต้องทำแบบนั้นก็คือ การให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้ หรือที่เกินค่อนโลกของมนุษย์รู้จักกันในนาม Work From Home หรือ Remote Working
งานวิจัยที่ถูกทำขึ้นทั่วโลกโดย Gartner, Inc. พบว่า 88% ขององค์กรทางธุรกิจทั่วโลกมีนโยบายผลักดันให้พนักงานทำงานจากที่บ้านหรือ Work From Home กันมากขึ้น และอีก 97% ขององค์กรธุรกิจที่เดินทางไปมาทั่วโลกก็ลดการเดินทางเรื่องธุรกิจหรือ Business Trip ลงทั้งหมด สิ่งหนึ่งที่เป็นเหตุผลสำคัญที่สุดคือลดความเสี่ยงที่จะทำให้พนักงานติดเชื้อCovid-19 เพราะเมื่อติดเชื้อ Covid-19 ไม่ใช่แค่พนักงานคนนั้นเท่านั้นที่ทำงานไม่ได้ อาจจะทำให้พนักงานคนอื่น หรือทีมอื่ม และอาจลามไปทั้งองค์กร จนไปถึงธุรกิจขององค์กรขับเคลื่อนไม่ได้แต่ยังต้องมีค่าใช้จ่ายคงอยู่ นโยบาย Work From Home เพื่อให้พนักงาน Remote Working ได้นอกจากช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าวแล้วยังลดค่าใช้จ่ายบางส่วนได้ด้วย
มีมากมายหลายมาตรการเพื่อลดการแพร่เชื้อ Covid-19 Work From Home ก็เป็นวิธีหนึ่ง
สิ่งที่เป็นกังวลขององค์กรหลังจากมีนโยบาย Work From Home นั่นคือ ประสิทธิภาพการทำงานของคนทั้งองค์กร เกือบปีที่ผ่านมา Teachme Biz เองก็สามารถปรับตัวจากสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ นี้ได้ พนักงาน Work From Home ได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ด้วยวิธีการต่าง ๆ
เพิ่มประสิทธิภาพให้พนักงานในองค์กรด้วยแม้จะต้อง Work From Home
1. สร้างทิศทางของทีมไปในทางเดียวกันตั้งแต่เริ่มต้นในทุก ๆ วัน
คงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไรนักที่การ Work From Home ทำให้มีเพื่อนร่วมทีมบางคนนอนเลยเวลาทำงานปกติ การประชุมสั้น ๆ ในตอนเช้าก่อนเริ่มงานในแต่ละวัน เพื่อพูดคุยกับลูกทีมทั้งหมดว่าวันนี้มีเป้าหมายของการทำงานอะไรบ้าง และหากมีเรื่องต้องสอบถามจากแต่ละคนในทีมจะเข้าถึงหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานผ่านช่องทางใด
การทำ Daily Check-in ทุกวันเป็นการสร้างแรงผลักดันการทำงานที่ดีอย่างหนึ่ง
ในตอนท้ายของวัน ก็มาพบปะกันอีกครั้ง พูดถึงผลงานที่ทำได้ในแต่ละวัน ไม่ว่ามันจะเป็นผลงานใหญ่หรือเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม การได้พูดถึงผลงานนั้น ๆ ต่อทุกคนในทีมจะทำให้สมาชิกในทีมทั้งหมดเกิดความภูมิใจกับผลงานของตนเอง และมีแรงจะทำมันต่อในวันรุ่งขึ้น การพบกันในช่วงเช้าและเย็นผ่านช่องทางออนไลน์ในช่วง Work From Home แบบนี้ไม่จำเป็นต้องยาวเป็นชั่วโมง เพียงครั้งละ 5-10 นาทีก็สร้างแรงผลักให้ทีมเดินไปข้างหน้าได้แล้ว หรือจะเรียกว่าเป็นการทำ Daily Check-in และ Check-out ของทีมก็ว่าได้
คำแนะนำเบื้องต้นเพื่อสร้าง Daily Check-in และ Check-out เมื่อ Work From Home
2. สร้าง Workspace หรือ “ออฟฟิศส่วนตัวโดยเฉพาะ” ขึ้นที่บ้าน
การรณรงค์ให้พนักงานสร้างมุมออฟฟิศส่วนตัวขึ้นเมื่อ Work From Home เป็นทางหนึ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพ เพราะมุมนั้น ๆ จะกลายเป็นมุมสำหรับการทำงานจริง ๆ Workspace ส่วนตัวช่วยให้มีสมาธิแม้จะทำงานอยู่บ้าน ช่วยลดการรบกวนหรือถูกดึงให้หลงทางจากสภาพแวดล้อมภายในบ้านได้ ยิ่งถ้าบ้านไหนเป็นครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคน หรือเด็ก ๆ ที่อยู่บ้านเนื่องจากต้องเรียนออนไลน์เช่นกัน สมาชิกแต่ละคนจะเข้าใจและเคารพต่อ Workspace นี้ ทำให้โอกาสที่จะถูกรบกวนมีน้อยลงด้วย
ห้องครัวก็เป็นมุมส่วนตัวได้ สมาชิกคนอื่นในบ้านคงไม่ได้อยู่ในครัวทั้งวันแน่ ๆ
เน้นมุมที่ห่างไกลออกมาหน่อยจากสมาชิกภายในบ้าน มีโต๊ะทำงานเหมาะ ๆ หนึ่งตัวกับเก้าอี้ มีแสงสว่างเพียงพอ อุณหภูมิพอเหมาะ เดินลุกไปเข้าห้องน้ำได้ง่าย เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เราสามารถระดมไอเดียจากหลากหลายพนักงานมาสร้างเป็นคู่มือออไลน์แนะนำสำหรับยกระดับการ Work From Home ด้วย Teachme Biz ได้ง่ายดาย
คำแนะนำเบื้องต้นเพื่อสร้าง Workspaces ที่บ้าน เมื่อต้อง Work From Home
3. สร้างความผ่อนคลายจากกิจกรรม Non-work
สิ่งหนึ่งที่หายไปเลยแน่ ๆ เมื่อ Work From Home ก็คือการได้เมาท์มอยกันแบบเล็ก ๆ น้อยไม่กี่วินาทีก่อนจะหันเก้าอี้กับมาที่จอตรงหน้า หรือเดินเข้าออฟฟิศแวะทักทายเพื่อนร่วมงานที่หัวโต๊ะพูดคุยถึงข่าวสาร สารทุกข์สุขดิบกันไม่กี่นาที สิ่งเหล่านี้หายไปแล้วเมื่อ Work From Home เกิดขึ้น แม้มันเป็นกิจกรรมที่ไม่ใช่เรื่องงานแต่สิ่งนั้นเป็นเหมือนยาบรรเทาความเครียดที่นอกจากไม่ได้เบียดเบียนการทำงานแต่กลับเป็นการสร้างแรงกระตุ้นให้ทำงานได้ดีขึ้นอีก
สร้างช่วงเวลาที่ได้พูดคุยเรื่องอื่น ๆ ถามสารทุกข์สุขดิบ สร้างความสัมพันธ์กับสมาชิกในทีม
การให้ผู้จัดการหรือหัวหน้าทีมสร้างช่วงเวลาสำหรับสมาชิกในทีมได้พูดคุยกันในเรื่องทั่ว ๆ ไปแม้ในช่วง Work From Home อัปเดตข่าวสารเรื่อง Covid-19 กิจกรรมที่ทำก่อนนอน หรือเรื่องราวอื่น ๆ ที่เคยคุยกันในออฟฟิศ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้พนักงานคลายเครียดในสภาวะที่ไม่ได้ออกไปไหนได้ดีขึ้น และยังสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมทีมได้ดีขึ้นด้วย อาจจะนัดเวลากันในช่วงสายหรือบ่าย แวะพักจิบกาแฟกันแบบพร้อมหน้าและพักจากงานสัก 10 นาที ให้ทุกคนได้มีเวลาสานความสัมพันธ์กับทีมเพื่อความลื่นไหลในการทำงาน
คำแนะนำเบื้องต้นเพื่อการสร้างความสัมพันธ์เมื่อต้อง Work From Home จากกิจกรรม Non-Work
อาจฟังดูเป็นเรื่องไม่ได้สลักสำคัญ แต่การแต่งตัวที่ดูเป็นทางการขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยก็ไม่ควรเป็นชุดนอนในขณะที่ Work From Home ในทางจิตวิทยาแล้วมันช่วยให้พนักงานทำงานได้ดีขึ้น เพราะการแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่เป็นทางการหรือกึ่งทางการนี้เป็นเหมือนไกปืนที่ถูกเหนี่ยวและเสียงจากปืนนั้นก็เป็นตัวบอกว่าเราข้ามผ่านสถานะจากการนอนมาเป็นวันใหม่ของการทำงานแล้ว การแต่งตัวอาจจะไม่ต้องถึงขั้นใส่สูท หรือ Make-up แบบจัดเต็ม หรือเป็นชุดมาตรฐานเหมือนตอนไปที่ออฟฟิศ แค่เป็นชุดลำลองที่ดูภูมิฐาน ใส่แล้วลุกนั่งสบาย ก็ช่วยสร้างแรงกระตุ้นในการทำงานที่ดีได้แล้ว คุณจะลองทำแล้วสังเกตดูก็ได้นะว่าจริงไหม
แต่งกายให้ดูดีแม้ Work From Home อย่างน้อยตัวเราคนหนึ่งก็รู้สึกดี
ทั้งหมดนี้เป็นไอเดียเพื่อให้พนักงานเป็นแนวทางในการทำงานเพิ่มประสิทธิภาพของการ Work From Home ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อเทียบกับการทำงานที่ออฟฟิศ ไอเดียเหล่านี้สามารถสร้างลงไปในคู่มือได้ง่าย ๆ
ที่มา : https://teachme-biz.com/