วันนี้จะมาพูดถึงเทคนิคการใช้กลยุทธ์ลดราคาเพื่อกระตุ้นยอดขายว่าแต่ละแบบเป็นอย่างไร? ทำไมใคร ๆ ก็ชอบใช้คูปองลดราคา? และแบบไหนถึงปิดการขายได้ดีที่สุด? ซึ่งแน่นอนว่าทุกวันนี้เราจะเห็นว่ามีร้านค้าที่ใช้การลดราคาเกลื่อนไปหมด บ้างก็ทำเพื่อกระตุ้นยอดขาย บ้างก็ทำเพื่อโล้ะสินค้าเก่าให้หมดไป ซึ่งแน่นอนว่าอัตราส่วนการลดราคาแต่ละครั้งของร้านค้านั้น ๆ ไม่ได้ตั้งขึ้นมาลอย ๆ ตามใจของเจ้าของร้านค้า แต่ถูกตั้งมาจากหลักจิตวิทยาที่ใช้เพื่อโน้มน้าวผู้บริโภคให้สนใจและประทับใจในการเลือกซื้อสินค้านั้น ๆ ซึ่งแน่นอนว่าวันนี้กระผมจะขอพูดถึงเทคนิคจิตวิทยาที่ใช้ได้ผลจริงที่พ่อค้าแม่ค้าควรรู้ก่อนจะทำแคมเปญลดราคาสินค้าของร้านตัวเอง จะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลยครับ
แต่ก่อนที่จะไปดูเทคนิคทางจิตวิทยาในการใช้สร้างแคมเปญลดราคานั้น เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมคนถึงชอบเวลาสินค้าลดราคาและทำไมการลดราคาถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีกระตุ้นยอดขายที่ได้ผลดีที่สุด
ปัจจัยที่ทำให้การลดราคานั้นได้ผลดีเกิดจากการที่ร้านค้าลดราคาแต่ละครั้งนั้นจะทำขึ้นภายใต้หลักการของความเร่งด่วนและยังมีเวลาจำกัดเพื่อทำให้ลูกค้ารับรู้ว่าต้องซื้อภายในเวลาที่กำหนดเท่านั้น ถ้าหากไม่ซื้อภายในเวลาที่กำหนดก็จะต้องซื้อในราคาเต็มหรือไม่ก็ไม่มีสินค้าให้ซื้ออีกต่อไปแล้วเพราะอาจจะขายหมดตั้งแต่ช่วงลดราคา ซึ่งประเด็นมันอยู่ตรงนี้แหละครับทุกคน เนื่องจากผู้คนมักจะกลัวการพลาดหรือเสียโอกาสอะไรดี ๆ ไปและมักจะคิดว่าถ้าไม่รีบซื้อตอนนี้จะต้องพลาดสินค้าราคาดี ๆ แน่ ๆ ซึ่งความคิดนี้แหละครับเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้การลดราคานั้นมักจะได้ผลในการใช้เพื่อกระตุ้นยอดขายและปิดการขาย ยิ่งไปกว่านั้นการคิดว่าตัวเองจะเสียโอกาสหากไม่ซื้อสินค้าในช่วงลดราคานั้นยังถือเป็นความเจ็บปวดอย่างหนึ่ง ซึ่งโดยธรรมชาติของมนุษย์ทุกคนนั้นมักจะมองหาความพึงพอใจและพยายามหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดอยู่แล้วครับ
และจากที่กระผมได้เกริ่นไว้ข้างต้นแล้วว่าการลดราคานั้นมีหลากหลายวิธีมากที่พ่อค้าแม่ค้าสามารถทำได้เพื่อทำใช้ช่วยปิดการขายให้ง่ายและเร็วขึ้น เช่น โปรแบบซื้อ 3 แถม 1 ฟรีค่าขนส่ง ลดราคาเป็นราคาคงที่ และลดราคาเป็นเปอร์เซ็นต์หรือแม้กระทั่งการลดเพิ่มอีกขั้นนึงหลังจากที่ลดราคาไปแล้วก็ถือเป็นการลดราคาที่สามารถกระตุ้นยอดขาย อย่างไรก็ตามโปรโมชั่นการลดราคานั้นให้ผลลัพท์ที่แตกต่างกันเพราะบางโปรโมชั้นก็ให้ผลลัพท์ที่ดีกว่าอีกโปรโมชั่นนึง
โดยมีการอ้างอิงจากสถิติว่า
ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับจิตวิทยาของมนุษย์ล้วนๆ เลยครับ หากทุกคนเข้าใจจุดนี้แล้วก็คงจะพร้อมที่จะไปสู่การเรียนรู้เทคนิคเพื่อปรับใช้หรือพลิกแพลงใหก้เข้ากับสินค้าและโอกาสที่เหมาะสมในการให้ส่วนลดแก่ลูกค้านะครับ เอาละครับผมคิดว่าเพื่อนๆ คงอยากรู้ใจจะขาดแล้วว่าเทคนิคในการทำให้การลดราคาสามารถปิดการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นมีอะไรบ้าง เรามาดูกันเลยครับ
กระผมก็ได้เรียนรู้เทคนิคการให้ส่วนลดไปเต็มๆ แล้วนะครับ แต่ก็ใช่ว่าการให้ส่วนลดนั้นจะไม่มีข้อเสียเลยซะทีเดียวและเพื่อให้ทุกคนแตกฉานมากขึ้นในเรื่องการให้ส่วนลดเรามาดูว่าข้อเสียของมันว่าจะเป็นยังไงนะครับหากลดราคาบ่อยจนเกินไป การลดราคาบ่อยเกินความจำเป็นนั้นนอกจากจะไม่สามารถกระตุ้นยอดขายได้ดีเท่าที่ควรแล้วยังส่งผลเสียแก่พ่อค้าแม่ค้าอีก เนื่องจากจะทำให้คนไม่อยากจะซื้อสินค้าในราคาเต็มแต่จะรอให้ร้านปล่อยโปรโมชั้นลดราคาถึงจะซื้อ โดยเฉพาะกับร้านค้าที่ขายสินค้าราคาปกติที่ไม่สูงมากยิ่งจำเป็นต้องระวังในการให้ส่วนลดแก่ลูกค้าบ่อยเกินความจำเป็นเพราะอาจทำให้ผลลัพท์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังสำหรับการขายสินค้าในระยะยาว
ก็จบกันไปแล้วนะครับกับหลักจิตวิทยาเด็ดๆ ที่เหล่าพ่อค้าแม่ค้าผู้น่ารักทุกคนควรรู้และควรลองนำไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองเพื่อเนรมิตยอดขายให้สูงขึ้นตามที่คาดหวัง แอละยังสามารถนำข้อมูลแบบนี้ไปบอกเล่าให้เพื่อนๆ พ่อค้าแม่ค้าของทุกๆ คนได้อีกด้วยเพื่อทำให้พวกเรานั้นเติบโตไปด้วยกันเพราะถ้าธุรกิจของเพื่อนๆ โต กระผมก็จะโตไปพร้อมๆ กับเพื่อนๆ ทุกคนด้วยครับ
ที่มา : https://blog.sellsuki.co.th