การตลาดยุคใหม่ “4P” ไม่พอแล้ว! ทำความรู้จัก “5R” แบรนด์จะชนะการแข่งขัน ต้องเจอ “ปลาที่ใช่”

การตลาดยุคใหม่ “4P” ไม่พอแล้ว! ทำความรู้จัก “5R” แบรนด์จะชนะการแข่งขัน ต้องเจอ “ปลาที่ใช่”

โลกธุรกิจยุคนี้ เผชิญกับความเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และผันผวน โดยมาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ

  1. “แนวโน้มทางเศรษฐกิจ” สงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐ กับจีน ยังไม่จบลงง่ายๆ และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างแน่นอน เพราะ Trade Balance ของโลกเปลี่ยน เพราะฉะนั้นเป็นทั้งความท้าทาย และโอกาสของเศรษฐกิจในหลายประเทศ ขณะที่เศรษฐกิจประเทศไทย มีแนวโน้มนิ่งขึ้น และการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นในปีหน้า คาดการณ์ว่าจะส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้น
  2. “แนวโน้มทางเทคโนโลยี” ที่เปลี่ยนแปลง เช่น connected cloud, chatbot, IoT, AI, machine learning เอามาใช้ประยุกต์ให้เหมาะสมกับธุรกิจ เพราะฉะนั้นการไม่มองการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี จึงเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับนักการตลาดยุคปัจจุบัน
  3. “แนวโน้มทางการตลาด” ปัจจุบันโลกเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียว ขณะเดียวกันพฤติกรรมผู้บริโภคมีความเป็น globalize มากขึ้น แต่ในเทรนด์ขณะนี้เริ่มเปลี่ยนจาก Globalization เป็น Localization มากขึ้น และจะขยายไปถึงระดับ Personalize เพราะผู้บริโภคมีความเป็นปัจเจกชนมากขึ้น

ไม่ได้วัดกันที่การเป็น “ปลาใหญ่ – ปลาไว” แต่ต้องเป็น “ปลาที่ใช่”

คุณอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (จากงาน Marketing Day เช้าวันนี้ 23 พ.ย. 2561) ได้ฉายภาพเทรนด์ว่า ปัจจุบันผู้ชนะในน่านน้ำของการแข่งขันยุคใหม่ ไม่ได้วัดกันที่การเป็น “ปลาใหญ่” หรือ “ปลาไว” แต่ต้องเป็น “ปลาที่ใช่” หรือ “The Right Fish” ซึ่งหัวใจแห่งความสำเร็จ ประกอบด้วย “5R” หรือ “5 ใช่” คือ

“Right People คนที่ใช่” ในยุคที่ส่วนแบ่งการตลาด และกลุ่มผู้บริโภคนั้นมีการแบ่งย่อยเป็นอย่างมาก แบรนด์ต้องมีความชัดเจนว่าสินค้าและบริการถูกสร้างขึ้นเพื่อใคร เพราะในโลกยุคปัจจุบัน Mass Marketing หรือ One size fit all เริ่มเลือนหายไป และถูกทดแทนด้วย “Personalized Markeing” ซึ่งเป็นการตลาดระดับบุคคล ดังนั้น การตั้งโจทย์ที่ถูกต้อง ต้องเริ่มต้งแต่การตั้งกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อตอบความต้องการของกลุ่มเป้าหมายให้ได้อย่างตรงจุด

“Right Product สินค้าที่ใช่” การพัฒนาสินค้าและบริการ ไม่ได้มาจากความเชี่ยวชาญขององค์กรเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมาจากความต้องการของลูกค้า ในสมัยนี้ไม่ใช่ว่าแค่ผลิตสินค้าดี มีคุณภาพแล้วคนจะหลั่งไหลมาซื้อ แต่นอกจากดีแล้วยังต้องโดนใจอีกด้วย คือสินค้าที่ใช่นั้น ต้องโดนใจและตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาในชีวิตของลูกค้า ดังนั้น แบรนด์ต้องใกล้ชิดกับผู้บริโภคให้มากขึ้น และทำความเข้าใจกับความต้องการของพวกเขาได้อย่างถ่องแท้

“Right Purpose วัตถุประสงค์ที่ใช่” เราอยู่ในยุค Shared Purpose เป็นเรื่องสำคัญ เพราะผู้บริโภคมีทางเลือกมากมาย ความชอบและการเลือกซื้อเป็นระดับบุคคลมากขึ้น ผู้บริโภคมองหาแบรนด์ที่เป็นเหมือนเพื่อนของเขา คิดอะไรเหมือนกัน มีความเชื่อ และมีจุดมุ่งหมายในชีวิตเหมือนกัน ดังนั้นแบรนด์ที่มีวัตถุประสงค์ยิ่งใหญ่มากกว่าแค่การขายสินค้า และบริการ จึงเป็แบรนด์ที่ถูกเลือก โดยแบรนด์เหล่านี้ต้องพิสูจน์ความตั้งใจดี ด้วยการกระทำ ดังนั้นเรื่องของความรับผิดชอบทางสังคม หรือ CSR ไม่ใช่แค่กิจกรรมชั่วคราว แต่ถูกฝังลงไปในขั้นตอนและแนวคิดของสินค้าด้วย สิ่งเหล่านี้มีผลต่อการตัดสินใจในการเลือกซื้อ เลือกแนะนำของลูกค้อย่างมาก

“Right Approach & Right Time ถูกวิธี ถูกที่ ถูกเวลา” ในยุคผู้บริโภคเป็นใหญ่ แบรนด์ต้องสร้างความเข้าใจใน customer journey และเข้าให้ถึงผู้บริโภคให้ถูกวิธี ถูกที่ ถูกเวลา โดยไม่มีเส้นกั้นระหว่าง online และ offline อีกต่อไป ทั้งการสื่อสาร ช่องทางการขาย และการเชื่อมโยงข้อมูลของลูกค้า ทุกอย่างต้องถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน โดยเจ้าของกิจการ และนักการตลาด ต้องมองภาพใหญ่ให้ชัดเจนเป็นหนึ่งเดียว รวมถึงการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลจากช่องทางต่างๆ จะมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อความสำเร็จ

 
ที่มา : https://www.marketingoops.com/

 425
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์